ออมหุ้นดีมั้ย? ออมหุ้น ดีจริงหรือ?

"นี่เธอ เล่นหุ้นรวยเร็ว รวยมากจริงป่าว" แล้วออมหุ้นดีมั้ย? ออมหุ้น ดีจริงหรือ?

"จริง แต่ไม่ทั้งหมดจ้า"

ถ้าจะเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย ๆ มันก็เหมือนการทำธุรกิจ

มีกี่คนบนโลกใบนี้ที่รวยมหาศาลจากการทำธุรกิจ

ไม่ต้องเอารวยระดับโลกก็ได้ เอาแค่ระดับประเทศพอ

ก็แค่ส่วนน้อยไม่กี่สิบคน จริงมั้ย?

ตลาดหุ้นก็เหมือนกันแหละเธอ

มันมีคนประสบความสำเร็จ และรวยจากหุ้นแบบรวยมาก ๆ ประสบความสำเร็จมาก ๆ แค่ไม่กี่คนหรอก

แต่มันก็มีอีกไม่น้อยนะ ที่ไม่ได้รวย เรียกว่ามั่งคั่งดีกว่า

เขาได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ เช่น เฉลี่ยปีละ 10% อะไรทำนองนี้

"10% ต่อปีก็เยอะแล้วนะเธอ"

"แหมๆๆๆ เดี๋ยวนี้เก่งขึ้นแล้วนะจ้ะ"

“รู้ว่า 10% ก็เยอะแล้ว ไม่โลภมากเหมือนแต่ก่อน”

“ก็แหมมมมมมม กลับไปหาความรู้เพิ่ม ทำการบ้านเพิ่มบ้างอะไรบ้าง”

“ต้องหาทำในสิ่งดีดี จะได้สวยและรวยมากไปนาน ๆ”

“ดีแล้วจ้า อนุโมทนา 55+”

มาดูฝั่งที่ล้มเหลวกันบ้าง

มากกว่าคนที่สำเร็จนะจ้ะ มากกว่ามากๆๆๆๆ ด้วย

พูดจริง ไม่ได้ขู่

“ชั้นเคยโดนมากับตัวเองแล้ว”

“ว้าย สมหน้า 55+”

อ้าว ตบมะ หึหึ

เหตุผลหลักคือ “ความโลภ”

ยิ่งโลภ ยิ่งกล้า

ยิ่งกล้ายิ่งซื้อ

ซื้อบนความกล้าที่เกินความรู้ ความสามารถของตน

พูดแบบเจ็บ ๆ เลยก็คือ ไม่ประมาณตน

เงินเดือนหมื่นห้า แต่จะขับบีเอ็ม มันจะได้เหรอ จริงมะ

“ก็จริงอย่างที่เธอว่า”

“งั้นชั้นจะเริ่มจากตรงไหนดี”

แนะนำ “ออมหุ้น”

มันคล้ายกองทุนรวม คือลงทุนผ่านคนกลางที่เขาเชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรง

แถมใช้เงินน้อยกว่าเล่นหุ้นเองด้วย

เพราะใช้เงินออมเริ่มต้นแค่เดือนละ 1,000 บาท

ออมหุ้นก็เหมือนออมเงิน

เพียงแค่เงินที่ออมนั้นนำไปลงทุนในหุ้น

ผลตอบแทนก็ขึ้นอยู่หุ้นที่เราเลือกลงทุน ซึ่งผู้ให้บริการก็จะมีหุ้นจำนวนหนึ่งมาให้เราเลือกว่าจะลงทุนตัวไหนได้บ้าง

อาจจะมาจากนักวิเคราะห์ของโบรกฯ นั้นคัดมาให้ หรือเลือกได้ทั้งหมดใน SET50

ส่วนใหญ่ก็จะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ สภาพคล่องดี

หรือหุ้นขนาดรองลงมาที่มีสภาพคล่องสูงและมีอัตราการเติบโตที่น่าจับตา

ประมาณว่าดาวรุ่งพุ่งแรง

และสามารถปรับเปลี่ยนหุ้นได้ตามเงื่อนไขของแต่ละโบรกเกอร์

ต้องไปดูเงื่อนไขของแต่ละโบรกเพิ่มเติมนะจ้ะ ^^

ฉะนั้น ก็มีโอกาสขาดทุนได้ตามความเสี่ยงของการลงทุนในหุ้น

แต่ในระยะยาว สถิติบอกแล้วว่าการลงทุนในหุ้นให้ผลตอบแทนที่ดี

ดังนั้น การออมหุ้นจึงเหมือนการปลูกต้นไม้ใหญ่ ที่เธอต้องรอเวลาจนกว่าจะได้ดอกผลอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

เงินที่ออมหุ้นจึงต้องเป็นเงินเย็นจริง ๆ

“งั้นก็เหมาะไว้ใช้ยามเกษียณน่ะซิ”

ใช่เลย แต่ก็ไม่ควรจะทุ่มเงินเก็บทั้งหมดให้กับหุ้น

ช่วงไหนดีก็ดีใจหาย แต่ช่วงไหนร้ายก็ดั่งนรกนะเธอ

เธอควรแบ่งมาเพียงบางส่วนเท่านั้น ซัก 10-20% ของเงินที่เธอต้องการลงทุนทั้งหมด

“ถ้าชั้นสนจะออมหุ้น ต้องทำอย่างไรอะ”

นี่เลย ลิ้งค์นี้เลยจ้า set.or.th

ครบทุกเจ้าที่เปิดให้บริการออมหุ้น

“ออมหุ้น” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนที่ดี

เพียงแต่ต้องใจเย็น เพราะต้องใช้เวลานาน จึงจะเห็นดอกผล

เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาศึกษาเรื่องหุ้นอย่างจริงจัง

หรือศึกษาแล้วไม่เก่งพอ แบบเธออะ

“จ้า เหน็บชั้นตลอด”

รักดอกจึงหยอกเล่น ^^

สรุปนะจ๊ะ

1. ออมหุ้นคือการออมเงินที่นำเงินออมไปลงทุนในหุ้นผ่านโบรกเกอร์ที่ให้บริการ

2. เหมาะกับการลงทุนในระยะยาว เพราะเวลาจะช่วยลดความเสี่ยงเรื่องความผันผวนของราคา

3. ใช้เงินเริ่มต้นน้อย แต่ต้องเป็นเงินเย็น