ไม่มีรายการ

มีลูกกะทันหัน...จัดสรรเงินอย่างไรดี

มีลูกกะทันหัน...จัดสรรเงินอย่างไรดี

26 กุมภาพันธ์ 2563


ตั้งใจไว้ว่าอีก 2 ปีจะมีลูกแต่ลูก ดันมาก่อนซะงั้น

ตั้งใจไว้ว่าแต่งงานเสร็จค่อยมีลูก แต่มีลูกก่อนซะงั้น

เป็นหัวข้อที่คนอยากมีลูกอิจฉามากๆ เลยค่ะ เพราะส่วนมากแล้ว เรามักจะได้ยินคำบ่นเสมอว่า

- คนที่ยังไม่พร้อมมีลูกจะมีลูกง่าย

- คนที่อยากมีลูกมากๆ ทำยังไงก็ไม่มีลูกสักทีหรือมีลูกยากมาก

หากคุณแม่มือใหม่มีการวางแผนการมีลูกที่ดีอยู่แล้ว ว่าจะต้องเตรียมตัวเตรียมเงินอย่างไร คุณแม่สามารถข้ามบทความนี้ไปได้เลยค่ะ แต่ถ้าคุณไม่ได้วางแผน บทความนี้ต้องเป็นบทความที่มีประโยชน์ต่อคุณแม่มือใหม่มากแน่ๆเลยค่ะ

 

มีลูกกะทันหัน...ต้องจัดสรรเงินให้ประหยัดที่สุด

แผนที่ 1. ฝากครรภ์กับประกันสังคม

1.1 ฝากครรภ์กับประกันสังคม กรณีฝาก+คลอด โรงพยาบาลรัฐ

อันดับแรกให้เราไปฝากครรภ์กับโรงพยาบาลที่เราทำประกันสังคมไว้ เราแค่ยื่นบัตรประกันสังคมกับบัตรประชาชนแล้วบอกว่ามาฝากครรภ์ฝ่ายเวชระเบียน ก็จะทราบทันทีค่ะว่าต้องส่งไปแผนกสูติ

** อาจจะมีค่าบริการบางอย่างเช่น ตรวจฉี่ว่าตั้งครรภ์จริงไหม, ตรวจเลือดสามี ส่วนมากแล้วจะไม่เกิน 500-2,000 บาท แต่หากมีอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น

• ตรวจเลือดพ่อและแม่แล้วพบว่ามีภาวะเลือดจาง มีพาหะธาลัสสิเมีย

• ผู้ตั้งครรภ์อายุ 35 ปีขึ้นไป

• ภาวะครรภ์เป็นพิษ

• เบาหวาน

• โรคไต

• เอชไอวี หรือเอดส์

• โรคไทรอยด์

• โรคภูมิแพ้ตัวเอง

• ความดันโลหิลสูง

• การตั้งครรภ์แฝด

ก็ต้องเตรียมเงินไว้สำหรับเงื่อนไขข้างต้นด้วยนะคะ เพราะคุณจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคุณหมอค่ะ

ล่าสุดประกันสังคมช่วยค่าฝากครรภ์ 1000 บาทค่ะ แต่ต้องบอกไว้ก่อนนะคะว่า 1000 บาทนี้ ไม่ได้ครั้งเดียว เราจะต้องทำเรื่องทั้งหมด 3 ครั้ง

• ครั้งที่ 1: อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ จ่ายในอัตรา 500 บาท

• ครั้งที่ 2: อายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ จ่ายในอัตรา 300 บาท

• ครั้งที่ 3: อายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 28 สัปดาห์ จ่ายในอัตรา 200 บาท

**หมายเหตุ ในแต่ละครั้งที่เราเบิกค่าฝากครรภ์กับ ประกันสังคมเราจะต้องใช้ใบเสร็จตัวจริง พร้อมกับเอกสารที่บอกวันที่ ที่ไปตรวจครรภ์ และในเอกสารต้องมีข้อมูลที่รับรองว่าคุณแม่ตั้งครรภ์กี่สัปดาห์ พร้อมลายเซ็นของหมอด้วยนะคะ เหมือนกับใบรับรองแพทย์ (ขอกับ รพ.ได้) เป็นการยืนยันว่าเราไปฝากครรภ์ที่นั่นจริงๆ เพราะเราจะเบิกเงินได้ตามอายุครรภ์ค่ะ

1.2 ฝากครรภ์กับประกันสังคม กรณีฝากเอชน + คลอดโรงพยาบาลรัฐ

สำหรับแม่ที่สิทธิประกันสังคม อยู่ที่ โรงพยาบาลเอกชน เงื่อนไขก็ฟรีเช่นเดียวกันกับข้อ 1.1 แต่ต่างกันที่ว่า ถ้าเราจะคลอดเอกชนเลยก็แพงไปค่ะ เลยต้องย้ายไปคลอดที่ รพ.รัฐ ในส่วนนี้เราต้องหาข้อมูลด้วยนะคะ ว่าโรงพยาบาลรัฐที่เราจะไปคลอดนั้นรับ หญิงตั้งครรภ์อายุไม่เกินกี่สัปดาห์ เพราะจากประสบการณ์ของผู้เขียน คือ ฝากครรภ์กับประกันสังคมที่ รพ.เอกชน แต่ค่าคลอดแพงมากเลยวางแผนว่า ใกล้ๆ จะคลอดค่อยเปลี่ยนไป รพ.รัฐ แล้วคลอดที่นั่นเลย

เราก็ทำตามแผนเลยค่ะ ย้ายไป รพ.รัฐตอนอายุครรภ์ได้ 32 สัปดาห์ หรือ 8 เดือนแล้ว พอไปถึง รพ.รัฐ ตอนแรกเค้าไม่รับค่ะ โดยให้เหตุผลว่า

• รพ.รัฐ ไม่มีประวัติการรักษาของเราค่ะ ไม่รู้ว่าเรามีภาวะเสี่ยงแค่ไหน ถึงแม้ว่าเราจะพกสมุดชมพูเรามาก็ตาม

• หากเกิดอะไรขึ้นเช่น คลอดก่อนกำหนด ความซวยจะก็ตกที่ รพ.รัฐเต็มๆ

ฟังแล้วก็รู้สึกว่าพลาดที่ตัวเราเองนะคะ แต่เราก็ให้เหตุผลต่างๆนานารวมถึง เราอายุยังน้อยไม่มีภาวะ เสี่ยงอะไร รพ.รัฐเลยยอมรับเราค่ะ แต่ก็ต้องทนเสียงบ่นๆหน่อยค่ะ (แอบนอยๆเสียงบ่นแต่ไม่เป็นไร เราต้องเข้าที่นี้ให้ได้ ^^) จากนั้นก็เข้าสู่ขั้นตอนตั้งแต่ ทำบัตร ตรวจเลือดอีกที

**ฉะนั้นแล้ว หากใครจะใช้แผนที่ 1.2 ต้องเตรียมไว้เลยนะคะว่า รพ.รัฐ ที่เราตั้งใจจะไปคลอด รับครรภ์ไม่เกินกี่สัปดาห์


ตารางเปรียบเทียบค่าคลอดโรงพยาบาลรัฐ โดยประมาณ

มีลูกกะทันหัน...จัดสรรเงินอย่างไรดี

แผนที่ 2. ฝากครรภ์โดยใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาท

สำหรับแม่ที่ไม่มีประกันสังคม สิทธิบัตรทองก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีที่สุด ในแผนประหยัดเงินของเรานะคะ การฝากครรภ์รวมถึงค่าคลอดจริงๆแล้วไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ ถึงจ่ายก็ 30 บาท ตามสิทธิที่ได้รับ สิทธิบัตรทองจะอยู่ในเงื่อนไขปกตินะคะ เช่น คลอดธรรมชาติ แต่หากว่าเราต้องการผ่าคลอด หรือมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ อาจจะมีใครค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ

สิ่งที่ต้องทำใจยอมรับในการใช้สิทธิ์บัตรทองก็คือ การบริการของโรงพยาบาลค่ะ คนอาจจะเยอะ บริการอาจจะล่าช้า หรือห้องที่ต้องพักฟื้นอาจจะมีไม่เพียงพอหากต้องการห้องพิเศษ แม่มือใหม่ก็สู้ๆนะคะ เราน่าจะทราบถึงบริการที่จะได้รับเป็นอย่างดี ในแต่ละพื้นที่

ความกังวลนอกเรื่อง

สำหรับแม่มือใหม่ที่ท้องกระทันหัน และเป็นท้องก่อนแต่งด้วย หากแม่จะต้องจัดการเรื่องงานแต่งงาน ควรวางแผนการเงินในส่วนนี้ด้วยนะคะ เพราะทุกอย่างจะกระชันชิด และการจัดสรรเงินลูกของเรา ก็จะเลื่อนระยะเวลาออกไปอีก เพราะเราต้องยุ่งอยู่กับการจัดงานแต่งด้วย

บทความแนะนำล่าสุด


บทความอื่นๆที่น่าสนใจ