ไม่มีรายการ

เพิ่งเปลี่ยนงานจะรีไฟแนนซ์บ้านได้ไหม

เพิ่งเปลี่ยนงานจะรีไฟแนนซ์บ้านได้ไหม มาทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจ

24 มิถุนายน 2568


การรีไฟแนนซ์ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความคล่องตัวทางการเงิน ปรับโครงสร้างหนี้ให้ดีขึ้น หรือเลือกข้อเสนอที่คุ้มค่าจากธนาคารใหม่ที่ตอบโจทย์มากกว่า และในบางกรณียังสามารถขอวงเงินเพิ่มเพื่อใช้เป็นเงินสำรองหรือชำระหนี้อื่น ๆได้อีกด้วย หากคุณกำลังผ่อนบ้านมาได้สักระยะ การทบทวนและวางแผนรีไฟแนนซ์ก็เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการดูแลสุขภาพการเงินระยะยาว

 

 

แล้วถ้าเพิ่งเปลี่ยนงานสามารถรีไฟแนนซ์ได้ไหม?

แม้ว่าคุณจะเปลี่ยนงาน การรีไฟแนนซ์บ้านหรือคอนโดก็ยังเป็นไปได้ แต่สิ่งที่สำคัญคือการพิจารณารายได้และประวัติการทำงานของคุณ เนื่องจากธนาคารและสถาบันการเงินจะพิจารณาความมั่นคงทางการเงินและความสามารถในการชำระหนี้ของคุณ ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบประวัติการทำงานในตำแหน่งใหม่ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณสามารถรับผิดชอบการชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้

 

 

ปัจจัยที่ธนาคารพิจารณาในการรีไฟแนนซ์หลังจากเปลี่ยนงาน

 

1. ระยะเวลาในการทำงานที่ใหม่

หากคุณเพิ่งเปลี่ยนงานมาหมาดๆ ธนาคารอาจขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานใหม่ของคุณ เช่น ระยะเวลาที่คุณเริ่มทำงานใหม่ รายได้ที่ได้รับ หรือประเภทของงานที่ทำ หากคุณทำงานในตำแหน่งที่มั่นคงและมีรายได้ที่ดี ธนาคารก็จะพิจารณาอนุมัติการรีไฟแนนซ์ได้ง่ายขึ้น

 

2. รายได้ที่เพียงพอและมั่นคง

การมีรายได้ที่มั่นคงและสามารถตรวจสอบได้เป็นปัจจัยที่สำคัญ หากคุณเปลี่ยนงานและมีรายได้ที่ดีกว่าเดิม ธนาคารจะพิจารณาว่าคุณมีความสามารถในการชำระหนี้ได้หรือไม่ แต่หากคุณเปลี่ยนงานไปทำงานที่มีรายได้น้อยกว่า ธนาคารอาจมีความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการชำระหนี้

 

3. ประวัติการชำระหนี้

ประวัติการชำระหนี้ของคุณจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ธนาคารใช้ในการพิจารณาการอนุมัติรีไฟแนนซ์ หากคุณมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ไม่มีปัญหาค้างชำระ ธนาคารจะมั่นใจว่าคุณสามารถชำระหนี้ได้ตามปกติ

 

4.ประเภทของงานใหม่

หากงานใหม่ที่คุณทำเป็นงานที่มีความมั่นคง เช่น งานราชการหรือบริษัทขนาดใหญ่ ธนาคารจะมองว่าเป็นงานที่มีความเสี่ยงต่ำ อย่างไรก็ตาม หากคุณทำงานอิสระหรือเปลี่ยนไปทำงานในธุรกิจส่วนตัวที่มีรายได้ไม่คงที่ ธนาคารอาจมองว่ามีความเสี่ยงสูง

 

 

ข้อดีและข้อเสียของการรีไฟแนนซ์หลังจากเปลี่ยนงาน

 

ข้อดี:

1.ลดภาระดอกเบี้ย – หากธนาคารใหม่เสนออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า คุณจะได้ลดภาระดอกเบี้ยและค่างวดในระยะยาว

2.ปรับโครงสร้างหนี้ให้เหมาะสม – การรีไฟแนนซ์ช่วยให้คุณสามารถปรับระยะเวลาการผ่อนหนี้ให้ยืดหยุ่นขึ้นตามรายได้ใหม่ที่ได้จากงานใหม่

3.เพิ่มวงเงินกู้ – หากมีรายได้ที่สูงขึ้นจากงานใหม่ การรีไฟแนนซ์อาจช่วยให้คุณได้วงเงินกู้ที่มากขึ้น

ข้อเสีย:

1.อาจได้รับอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าเดิม – หากงานใหม่ของคุณมีความเสี่ยงหรือรายได้ที่ไม่แน่นอน ธนาคารอาจพิจารณาอนุมัติในอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

2.กระบวนการพิจารณาซับซ้อนกว่าเดิม – การเปลี่ยนงานอาจทำให้กระบวนการพิจารณาของธนาคารล่าช้า หรือธนาคารอาจขอเอกสารเพิ่มเติม เช่น หนังสือรับรองรายได้ หรือสัญญาจ้างงานใหม่

3.อาจต้องการเวลาพิจารณานานขึ้น – การพิจารณาจากธนาคารอาจใช้เวลานานขึ้นหากคุณเพิ่งเปลี่ยนงาน เพราะต้องตรวจสอบข้อมูลใหม่

 

วิธีเตรียมตัวก่อนรีไฟแนนซ์หลังจากเปลี่ยนงาน

1.เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
คุณควรเตรียมเอกสารที่แสดงถึงรายได้จากงานใหม่ เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองรายได้ หรือเอกสารที่พิสูจน์ว่าคุณมีรายได้ที่มั่นคงและเพียงพอ

2.เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายธนาคาร
ก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์ ควรเปรียบเทียบข้อเสนอจากธนาคารหลายๆ แห่ง เพื่อเลือกเงื่อนไขที่ดีที่สุด

3.ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน
หากคุณไม่มั่นใจเกี่ยวกับขั้นตอนการรีไฟแนนซ์หรือข้อเสนอจากธนาคาร ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน

 

สรุป

การรีไฟแนนซ์บ้านหรือคอนโดหลังจากการเปลี่ยนงานนั้นสามารถทำได้ แต่คุณต้องมีการเตรียมตัวและพิจารณาข้อมูลให้รอบคอบ โดยเฉพาะในเรื่องของรายได้ ความมั่นคงในการทำงาน และประวัติการชำระหนี้ เพื่อให้การรีไฟแนนซ์เป็นไปได้อย่างราบรื่นและได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด

 

หากคุณเพิ่งเปลี่ยนงานและกำลังพิจารณารีไฟแนนซ์บ้านหรือคอนโด อย่าลืมศึกษาเงื่อนไขและข้อเสนอจากหลายธนาคาร รวมถึงการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณ

 

บทความแนะนำล่าสุด


บทความอื่นๆที่น่าสนใจ