ไม่มีรายการ

หนี้บ้าน หนี้บัตรเครดิต หนี้รถยนต์ อ่านก่อนกู้ รู้ก่อนเป็นหนี้
12 มิถุนายน 2563
ใครที่กำลังจะไปขอสินเชื่อ ช้าก่อน.......
ทั้งกู้ซื้อบ้าน, ซื้อรถ, บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล
แวะอ่านบทความนี้ก่อนซะเลย
ไม่มีไรมากหรอก แต่อยากเตือนว่า...
อย่าลืมอ่านสัญญาก่อนเซ็นขอสินเชื่อเด้อ
อ่านให้ครบ อ่านให้หมด อ่านให้เข้าใจ
เพราะหลังจากนั้นคุณต้องรับใช้สัญญาดังกล่าว
ถ้าตัดจบแค่นี้ คงจะสั้นไปเนอะ
และคงมีคนด่าผมแน่นอน หึหึ
คืออยากบอกว่าสัญญาสินเชื่อต่าง ๆ สำคัญมาก ๆ เลยนะครับ
อย่ามักง่าย ใจเร็วด่วนได้ ไม่สนใจรายละเอียด
ยิ่งเดี๋ยวนี้โคตรง่าย แทบไม่ต้องกรอกอะไรเลย
บรรดาเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้หมด
คุณมีหน้าที่เซ็นชื่อตามที่เจ้าหน้าที่บอกเท่านั้น
วงการหนี้นี่ขาเข้ามักจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ
แต่ขาออกมักยากยิ่งกว่าเขาวงกต........
ประสบการณ์ตรงจากผมเลย
เชื่อไหม ผมไม่เคยอ่านสัญญาอะไรเลย
เซ็นอย่างเดียว อยากได้ อยากมี เอามาก่อน ค่อยว่ากัน
เริ่มจากกู้ซื้อบ้าน
ผมไม่แม้แต่จะดูอัตราดอกเบี้ย คิดแบบไหน
ไม่รู้เลยว่าดอกเบี้ยต่ำ ๆ มีแค่ 3 ปีแรกเท่านั้น
หลังจากนั้นดอกเบี้ยมโหฬาร (ไม่ได้คิดเรื่องรีไฟแนนซ์ด้วยเถอะ)
ไม่เคยอ่านว่าต้องจ่ายค่างวดวันไหน
ไม่รู้อัตราค่าเบี้ยปรับว่าโหดแค่ไหน หากจ่ายช้า
ผลก็คือเละครับ...
เชื่อไหมว่าผมเสียดอกเบี้ย+ค่าปรับปีละเป็นแสน !!!
กว่าจะรู้เรื่องก็ผ่านไป 4-5 ปีแล้ว
แทนที่เงินต้นจะลดไปได้มากโขละ
กลายเป็นยังไปไม่ถึงไหนทั้งที่ผ่อนมาเกือบ 8 ปีละ
เพราะไม่เคยอ่านหรือศึกษาสัญญาเลย
คิดแค่ขอให้ได้บ้านเป็นพอ ยังไงบ้านก็ของเรา
ถ้ายังจ่าย เขาก็ไม่มายึดหรอก
บ้าบอชะมัด...โคตรชุ่ยบอกเลย
มีอีกครับ
ต่อมาเริ่มมีบัตรเครดิต
เช่นกัน "ไม่เคยอ่านสัญญาเลย"
เซ็นอย่างเดียว สะสมจนได้มาถึง 11 ใบ
ไม่เคยรู้เลยว่าใช้ยังไงจะไม่เสียดอกเบี้ย
หรือถ้าเสียดอกเบี้ยอัตราเท่าไหร่
จ่ายขั้นต่ำคิดแบบไหน
เบี้ยปรับเป็นอย่างไร
มีค่าทวงถามด้วยนะ
วันตัดบิล-วันที่ต้องจ่าย
แต่ละบัตรคิดอัตราต่าง ๆ ไม่เหมือนกันนะ
หากกลายเป็นหนี้เสีย เจ้าหนี้มีสิทธิอะไรบ้าง
บอกเลยว่าไม่รู้สักอย่าง...
ผมขอเล่าข้ามช็อตไปจนวันที่หนีหนี้เลยละกัน
ก็ไม่จ่ายอะเนอะ ชิล ๆ ไป จนวันหนึ่ง....
มีรายได้ก้อนใหญ่โอนเข้ามาในบัญชีธนาคารที่ใช้ประจำ
ก็ไม่ได้คิดอะไรจนวันที่ไปกดตัง...
ปรากฎว่า เงินหายครับท่านผู้ชม
และไม่ได้มีใครขโมย แบงก์เป็นคนอายัดไว้
เพราะแบงก์ดังกล่าวผมเคยเบี้ยวหนี้บัตรเครดิตมา
โวยก่อนเลยผม...พยามเรียกคืนเงินก้อนนั้น
แต่ก็เหลววววว เพราะมีระบุในสัญญาว่า...
ธนาคารสามารถใช้สิทธิอายัดเงินในบัญชีได้
หากลูกค้าไม่ชำระหนี้คงค้างบัตรเครดิต
ยัง
ยัง
ยังไม่หมดครับ
มีหนี้ผ่อนรถอีก
ก็ไม่อ่านเช่นเดิม
ระหว่างทางก็มีจ่ายช้าบ้างตามสันดาน ฮ่า ๆ
จนวันที่คิดว่างวดสุดท้ายละ
จ่ายไปเสร็จ...ไปโอนรถ
โดนเบี้ยปรับจ่ายล่าช้าสะสมไปอีกบานเลย
นี่แหล่ะนิสัยมักง่าย ไม่เคยอ่านสัญญาอะไรเลย
มารู้ทีหลัง แล้วบ่น โวยวาย ว่าเจ้าหนี้โหด
ที่จริงเขาแจ้งไว้ทั้งหมดแล้วในสัญญา
คิดแค่อยากจะได้ ไม่สนใจอะไรเรื่องสำคัญขนาดนี้
ที่มาเล่าเพราะไม่อยากให้ทุกท่านต้องเป็นแบบผม
บางทีหากคุณอ่านสัญญาก่อน คุณอาจจะไม่อยากขอสินเชื่อนั้น ๆ เลยก็ได้
อย่างน้อยก็ต้องรู้นะว่า
สินเชื่อที่เรากำลังจะไปขอกู้
มีอัตราดอกเบี้ยเท่าไหร่ คิดแบบไหน
มีค่าธรรมเนียมอะไรเพิ่มเติมไหม
มีค่าติดตามทวงถาม-เบี้ยปรับอะไรบ้าง
วันครบกำหนดชำระ-วันตัดรอบบิล
หากเราไม่ชำระ เจ้าหนี้มีสิทธิทำอะไรเราได้บ้าง
ต้องรู้นะครับ ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ หนา
อ่านเถอะ ผมขอ ...
ไม่งั้นก็อย่าริไปเป็นหนี้เลย
ถ้าแค่นี้ยังทำไม่ได้
//////////////////////////////////////
หากคุณต้องการรวมหนี้ เพื่อแก้หนี้
สามารถยื่นสมัครสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อการแก้หนี้ได้ที่นี่ >> สมัคร คลิก