ไม่มีรายการ

กองทุนรวมคืออะไรทำความเข้าใจก่อนลงทุนจริง

กองทุนรวมคืออะไร? ทำความเข้าใจก่อนลงทุนจริง

16 เมษายน 2568


สำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นลงทุน "กองทุนรวม" เป็นคำที่ได้ยินบ่อย แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจว่ากองทนรวม คืออะไร และทำไมจึงเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม
ㅤㅤ⠀
กองทุนรวมเป็นหนึ่งในเครื่องมือการลงทุนที่ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงและได้รับโอกาสสร้างผลตอบแทนโดยไม่ต้องบริหารเงินลงทุนเอง รวมถึงกองทุนรวมบางประเภทยังได้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีอีกด้วย
ㅤㅤ

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับกองทุนรวม

กองทุนรวม (Mutual Fund) คือการลงทุนแบบที่นักลงทุนหลายๆ คนร่วมกันนำเงินมาลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ผ่านบริษัทจัดการกองทุน (บลจ.) โดยมีผู้จัดการกองทุนเป็นผู้ดูแลและบริหารจัดการเงินให้ การลงทุนในกองทุนรวม ทำให้มือใหม่ไม่ต้องกังวลเรื่องการวิเคราะห์ที่ซับซ้อนด้วยตัวเอง แต่สามารถอาศัยความเชี่ยวชาญของผู้จัดการกองทุนช่วยวิเคราะห์แทนเราได้
ㅤㅤ

กองทุนรวมเหมาะกับใคร?

- ผู้ที่ต้องการลงทุนแต่ไม่มีเวลาศึกษาข้อมูลเชิงลึกของสินทรัพย์ด้วยตัวเอง
- ผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยง
- ผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาวและให้เงินทำงานแทน รวมถึงการใช้สิทธิลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี
- ผู้ที่ไม่มีเวลาในการบริหารจัดการพอร์ตด้วยตัวเอง

 

 

ประเภทของกองทุนรวม

กองทุนรวมมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีระดับความเสี่ยงและโอกาสสร้างผลตอบแทนที่แตกต่างกัน โดยปกติแล้วผู้ที่จะลงทุนจะต้องทำแบบประเมินความเสี่ยงก่อน ซึ่งสำคัญมากๆ เพื่อที่จะได้รู้ว่าผู้ลงทุนยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับใด และระดับความเสี่ยงของกองทุนแบบไหนที่เหมาะกับตัวเอง
ㅤㅤ
1. กองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund)

ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น มีความเสี่ยงต่ำ
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสภาพคล่องสูง
ㅤㅤ

2. กองทุนรวมตราสารหนี้ (Fixed Income Fund)

ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้เอกชน
เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนมั่นคง

ㅤㅤ
3. กองทุนรวมตราสารทุน (Equity Fund)

ลงทุนในหุ้น มีโอกาสทำกำไรสูง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน
เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้และมีเวลารอในช่วงตลาดผันผวน
ㅤㅤ

4. กองทุนรวมผสม (Balanced Fund)

ลงทุนทั้งในหุ้นและตราสารหนี้
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงขึ้นและผลตอบแทนสม่ำเสมอ ที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูงขึ้นมา แต่ก็ยังต้องการสภาพคล่องสูงเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ลงทุนในหุ้น 50% และตราสารหนี้ 50%
ㅤㅤ

5. กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (Foreign Investment Fund - FIF)

กระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ในต่างประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงจากเศรษฐกิจในประเทศ รวมถึงคาดหวังการเติบโตและกำไรจากบริษัทระดับโลก เช่น กองทุนรวมจีน, สหรัฐอเมริกา, เวียดนาม, ญี่ปุ่น เป็นต้น
ㅤㅤ

6. กองทุนรวมเพื่อการออมและลดหย่อนภาษี (SSF, RMF)
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการในระยะยาวหรือลงทุนสำหรับแผนเกษียณ เพราะนอกจากจะสามารถคาดหวังอัตราผลตอบแทนได้แล้ว ก็ยังได้สิทธิลดหย่อนภาษีแถมมาด้วย เรียกได้ว่า เป็นการลงทุนที่กำไร 2 ต่อ

 

 

ข้อดีและข้อเสียของกองทุนรวม

ข้อดี
1. บริหารโดยผู้เชี่ยวชาญ ไม่ต้องวิเคราะห์หุ้นเอง มีมืออาชีพที่เก่งเรื่องนี้ดูแลให้
2. กระจายความเสี่ยง ลงทุนในสินทรัพย์ได้หลายประเภท หลายประเทศทั่วโลก ทำให้ลดความเสี่ยงได้
3. เริ่มต้นลงทุนได้ง่าย ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นไม่สูง บางกองเริ่มต้นที่ 1 บาท
4. สภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายได้ง่ายเมื่อเทียบกับการลงทุนแบบอื่น
5. ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี สามารถนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้

 

ข้อเสีย
1. ค่าธรรมเนียมการจัดการ อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าธรรมเนียมการซื้อขายและค่าธรรมเนียมการบริหารกองทุน
2. ไม่สามารถควบคุมการลงทุนได้เอง ผู้จัดการกองทุนเป็นผู้ตัดสินใจแทนเรา
3. มีเงื่อนไขในการขาย สำหรับกองทุนที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีก็จะมีเงื่อนไขการถือครอง ซึ่งตรงนี้ก็จะทำให้หลายคนที่ขาดสภาพคล่อง แต่ไม่สามารถนำเงินก้อนนี้ออกมาใช้ได้ ไม่อย่างนั้น ต้องคืนภาษีแถมเจอเบี้ยปรับ

 

 

บทความแนะนำล่าสุด


บทความอื่นๆที่น่าสนใจ