ผมเข้าใจนะถ้าคุณ...อยู่ในภาวะบัตรเครดิตเต็มมือ ยอดเต็มเกือบทุกใบ จ่ายได้แค่ขั้นต่ำ เงินต้นลดน้อยนิด พ่วงด้วยการผ่อนสินเชื่อส่วนบุคคลอีก
Oh my God ... พระรอด ... พระร่วง! สภาพคล่องใกล้พังแล้วล่ะสิ?
ผมรู้ ผมเคยเป็น ผมผ่านมาแล้ว อาจจะหนักกว่าคุณตอนนี้ด้วยซ้ำ เสียดายที่ผมคนวันนั้น ไม่ทันอ่าน บทความที่ผมคนวันนี้เขียน ไม่งงเนอะ ฮ่า ๆ
เอาเป็นว่า ผมจะมาแชร์ทางออกเกี่ยวกับเรื่องข้างต้นจากประสบการณ์ตรง...
เข้าใจว่าช่วงที่เราหน้ามืด การกรอกใบสมัครบัตรเครดิต / สินเชื่อบุคคล เป็นอะไรที่ง่ายและเต็มใจทำมาก
เราขวนขวาย เราไขว่คว้า เพื่อให้อำนาจการใช้จ่ายมาอยู่ในมือ
รู้ตัวอีกที ยอดหนี้เต็มบ่า
รู้ตัวอีกที ใบแจ้งหนี้กองเต็มบ้าน
รู้ตัวอีกที ก็รู้งี้ ... รู้งี้ ... และรู้งี้
เอาน่า ... ยังไงมันก็เกิดขึ้นแล้ว
"กรรม" เป็นผลของการกระทำเสมอ แทนที่จะมานั่งระลึกชาติ มาหาทางออกที่ดีขึ้นกันดีกว่า
ผมมีวิธีเปลื้องหนี้ให้หมดไว ๆ มาเสนอ
นั่นก็คือการ "รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต" ด้วย “สินเชื่อส่วนบุคคล”
ฮั่นแน่!!! รู้นะว่า ... คุณก็รู้อยู่แล้ว
แต่รู้ในมุมที่จะแชร์ให้อ่านกันหรือยัง?
อันดับแรกการ "รีไฟแนนซ์" ไม่ใช่การแก้หนี้
แต่เป็นวิธีการทำให้ภาระต่อเดือนของท่านลดลง
ทั้งยอดการผ่อนที่ลดลงและอัตราดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง
ด้วยการรวมหนี้ให้เป็นก้อนเดียวผ่านการ "รีไฟแนนซ์"
ยกเป็นตัวอย่างให้เห็นภาพเลยละกัน เช่น ตอนนี้ท่านมีเงินเดือน 50,000 บาท
สมมติว่า ท่านเป็นนักช้อปตัวยงและเทพแห่งการผ่อน ดังนี้...
ผ่อนบ้าน 15,000 บาทต่อเดือน
ผ่อนรถ 10,000 บาทต่อเดือน
ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 10,000 บาทต่อเดือน
รวมแล้วต่อเดือนมีรายจ่ายจำเป็น 35,000 บาท
ดูแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
เหลืออีกตั้ง 15,000 บาท
แต่ด้วยความที่เป็นนักช้อปตัวยง
ท่านจึงบังเอิญมีบัตรเครดิตอีก 3 ใบ หนี้ส่วนบุคคล 1 ก้อน
บัตรเครดิต A ยอด 30,000 ดอกเบี้ย 18% ต่อปี จ่ายขั้นต่ำ 5% = 1,500 บาท/เดือน
บัตรเครดิต B ยอด 50,000 ดอกเบี้ย 18% ต่อปี จ่ายขั้นต่ำ 5% = 2,500 บาท/เดือน
บัตรเครดิต C ยอด 70,000 ดอกเบี้ย 18% ต่อปี จ่ายขั้นต่ำ 5% = 3,500 บาท/เดือน
สินเชื่อส่วนบุคคลยอด 100,000 บาท ดอกเบี้ย 24% ต่อปี ผ่อน 24 เดือน = 5,287 บาท/เดือน
สิริรวมทุกสิ้นเดือนคุณต้องจ่ายหนี้ทั้งสิ้น 12,787 บาท
และต้องจ่ายแบบนี้ไปอีกไม่ต่ำกว่า 2 ปี
เมื่อรวมกับยอดคงเหลือข้างต้นแล้ว
แต่ละเดือนคุณจะเหลือเงินเพียง 2,213 บาท
หากเดือนไหนมีอะไรฉุกเฉินมาแย่แน่ ๆ
อีกอย่างการที่หนี้กระจัดกระจายหลายทาง ถ้าคุณไม่มีระเบียบวินัยทางการเงินมากพอ มักจะจบลงด้วยการจ่ายช้าเสมอ...และจะต้องโดนค่าปรับอีกวุ่นวาย
การ "รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต" จะช่วยทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
ยิ่งตอนนี้ยุค ดอกเบี้ยต่ำ + มาตรการช่วยโควิด-19 เพียบ
ผมเคยเห็นบางแบงก์จัดโปรดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคลต่ำเพียง 9%
นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีมาก ๆ ในการ "รีไฟแนนซ์"
ด้วยเงินเดือน 50,000 บาท ปกติกู้ได้ 5 เท่า
คุณก็จะได้เงินรวม 250,000 บาท
หนี้คุณทั้งหมดที่มีก็ 250,000 บาท พอดี
ก็เอาเงินก้อนใหม่ไปเคลียร์หนี้เดิมให้หมด
เหลือหนี้บุคคลกับแบงก์ใหม่เจ้าเดียว
แต่.......ที่เจ๋งคือดอกเบี้ยหายไปมากกว่าเท่าตัว และสามารถผ่อนได้ยาวกว่าเดิมสูงสุดถึง 72 เดือน
(อ่าว...ไหนบอกผมเร็วกว่าเดิม /// ใจเย็นนะอ่านให้จบ...)
คำนวณคร่าว ๆ ยอด 250,000 บาท ดอกเบี้ย 9% ต่อปี ผ่อนนานสัก 60 เดือนละกัน เงินต้นจะเหลือเพียง 5,190 บาทต่อเดือน รายจ่ายต่อเดือนหายไปเกินครึ่ง!!!
ที่ต้องให้ผ่อนยาวเพราะลดภาระผ่อนต่อเดือนลง เนื่องจากการ "รีไฟแนนซ์" เป็นการทำสัญญาใหม่ เราก็ควรวางแผนระยะยาวให้เบาตัวที่สุด เผื่อมีอะไรฉุกเฉินระหว่างทาง...
แต่มีเคล็ดลับทำให้หมดไวขึ้น เพราะการผ่อนสินเชื่อบุคคล เหมือนผ่อนบ้านที่ลดต้นดอก วิธีการก็คือให้เราจ่ายเพิ่มจากยอดขั้นต่ำ
เช่น ตามสัญญาผ่อน 60 เดือน จ่าย 5,190 บาท แต่ถ้าเราจ่ายเพิ่มไปอีก 1,810 บาท เป็น 7,000 บาทต่อเดือน (หรือราวครึ่งหนึ่งของยอดผ่อนเดิมก่อน "รีไฟแนนซ์") ระยะเวลาการผ่อนจะลดเหลือเพียง 42 เดือน หรือหายไป 1 ปีครึ่ง! และถ้าอยากเติมเยอะหน่อยจ่ายไป 10,000 บาทต่อเดือน ระยะเวลาผ่อนจะหายไปถึง 32 เดือน หรือเกือบ 3 ปี ยิ่งช่วงไหนมีรายได้พิเศษหรือโบนัส ก็โปะอัดเข้าไป แพ๊บเดียวเหลือไม่ถึง 2 ปีหมด
ซึ่งถ้าไม่ "รีไฟแนนซ์" จะทำลำบาก เพราะสภาพคล่องตัน ต้องหมุนเดือนชนเดือน ยิ่งหนี้บัตรเครดิตจ่ายขั้นต่ำนะ โคตรหนังชีวิต ดอกเบี้ย 2 เด้ง เผลอ ๆ รวมแล้วเกิน 2 ปีไปอีกไกลเลย...
วิธีนี้คล่องตัวกว่า เดือนไหนมีรายจ่ายเยอะ ก็จ่ายขั้นต่ำไป
ขณะเดียวกันดอกเบี้ยจ่ายรวมจะต่ำมาก เพราะอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าเท่าตัว
แม้แต่ท่านเงินเดือนน้อยกว่าตัวอย่าง ก็อยากให้ทำนะครับ…
กู้ใหม่ได้เท่าไหร่เท่านั้น เอาไปปิดหนี้ที่มีภาระต่อเดือนสูงสุดก่อน เหลือเอาไปเคลียร์หนี้ที่ภาระต่อเดือนรองลงมา เชื่อสิจะผ่อนหนักให้เป็นเบา แต่ละเดือนจะได้ไม่ต้องมานั่งอึดอัด
สนใจสินเชื่อส่วนบุคคล Lumpsum มีให้บริการ ดีลกับแบงก์โดยตรง สมัครง่าย สะดวก คลิก
แต่มีข้อห้ามสำคัญนะครับ ระหว่างนี้ "ห้ามก่อหนี้ใหม่เด็ดขาด" เพราะบางคนเห็นว่ารายจ่ายหนี้ต่อเดือนเบาลง เหิมเกริมไปก่อหนี้ใหม่ สุดท้ายเข้าวังวนเดิม
คล้ายคนลดความอ้วน พอน้ำหนักลดมาหน่อย กินเยอะกว่าเดิม สุดท้ายกลับไปอ้วนเหมือนเก่า
สิ่งที่ควรทำคือหักบัตรทิ้งให้หมด ใช้เท่าที่มี เพราะมันคง "รีไฟแนนซ์" ไม่ได้บ่อย ๆ แน่
เรื่องเงินต้องจริงจังและมีวินัยนะครับ ไม่ใช่เพื่อใครหรอก เพื่อตัวท่านเองนั่นแหละ
หนึ่งเอง หนึ่งไง จะใครล่ะ ^^