ไม่มีรายการ

วิธีเป็นหนี้อย่างสบายใจ
24 มิถุนายน 2565
เห็นหัวเรื่องแล้วคง เอ๊ะ ! กันล่ะสิคุณผู้อ่านทุกท่าน เป็นหนี้ที่ไหนมีความสบายใจด้วย
ก็ถูกครับ การไม่เป็นหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ แต่บางทีเราก็ จำเป็น ต้องสร้าง หนี้ เพื่อ.........................(เติมคำในช่องว่างได้เลย เพราะเวลาจะสร้างหนี้มักมีเหตุผลจำเป็นเสมอ อิอิ)
เรื่องที่จะแชร์กันในตอนนี้คือ แล้วถ้าจะไปสร้างหนี้ หรือ สร้างไปแล้ว เราจะสามารถจัดการอย่างไรให้เป็นหนี้ได้อย่างสบายใจและเหมาะสมถูกต้อง ?
มันมีวิถีอยู่ครับ (อาจจะไม่ได้ใหม่ หรือ คงได้อ่านได้ฟังกันมาบ้างแล้ว แต่ผมยังไม่ได้ย่อยข้อมูลมาแชร์ลูกเพจล่ำซำ จึงขอจัดเสียตอนนี้เลย ถือว่าเป็นการทบทวนเพื่อเตือนสติกันไปในตัวแล้วกัน ^^)
อันดับแรกก่อนเป็นหนี้ต้อง
ทำความเข้าใจก่อนลงนามในสัญญาทุกครั้ง !!!
สิ่งที่ต้องรู้ประกอบด้วย
1.วัตถุประสงค์ในการกู้เงินตรงตามที่ขอกู้
2. ระยะเวลาที่ให้กู้เงิน, วันชำระเงิน และความถี่ในการชำระเงิน
3. จำนวนเงินทั้งที่เป็นตัวเลขและตัวอักษรถูกต้องตรงกัน
4. อัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บเป็นแบบคงที่หรือลอยตัว หากเป็นแบบลอยตัวธนาคารต้องแจ้งประเภทของอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง เช่น MRR MLR MLR+x% หรือ MLR-x%
5. ตารางแสดงจำนวนเงินผ่อนต่องวดที่แสดงทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย
6. ประเภทและรายละเอียดของหลักประกันในสัญญาจำนองหลักประกัน ตรงตามที่ระบุในสัญญาหรือไม่ เงื่อนไขการไถ่ถอนและการเปลี่ยนแปลงหลักประกัน
7. เงื่อนไขการผิดนัดชำระหนี้ เช่น ดอกเบี้ยผิดนัด, ค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงถามหนี้ และเงื่อนไขการยึดหลักประกันเมื่อผิดนัดชำระหนี้
8. เงื่อนไขการชำระคืนเงินกู้ก่อนกำหนด เช่น หากอยากเอาเงินก้อนมาโปะหนี้ก่อนครบอายุเงินกู้จะทำได้หรือไม่และมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
9. รายละเอียดอื่น ๆ เช่น ค่าจดจำนองหลักประกัน, ค่าประเมินราคาหลักประกัน, ราคาประเมินของหลักประกัน (ถ้ามี) และค่าใช้จ่ายในการทำประกันวินาศภัยต่าง ๆ
หลังจากทำความเข้าใจทุกอย่างครบถ้วนแล้ว นี่คือ
5 ข้อในวิถีของการใช้หนี้ที่ควรจะเป็น เพื่อความสุขและความสบายใจในระยะยาว
1. ต้องใช้เงินตามวัตถุประสงค์
กู้มาทำอะไรต้องเอาไปใช้ตามนั้น อย่าวอกแวกแบ่งเงินไปใช้อย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง
2. เลี่ยงชำระขั้นต่ำ
เพราะหนี้ของท่านจะกลายเป็นมหากาพย์ดอกเบี้ยจ่ายในระยะยาว ไม่จบไม่สิ้นสักที
3. ชำระหนี้ตรงเวลาและเงื่อนไข
ตั้งเตือนไว้เลย ทุกคนมีโทรศัพท์มือถืออยู่แล้ว อย่าให้ขาดให้เกิน เพราะมันมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม หรือหากยุ่งจริง ๆ ตัดอัตโนมัตผ่านบัญชีธนาคารไปเลย
4. มีเงินก้อนต้องโปะทุกครั้ง
โดยเฉพาะหนี้ที่เป็นแบบลดต้นลดดอก หากมีรายได้พิเศษ หรือมีเงินก้อนเข้ามา ต้องโปะทุกครั้งที่ทำได้ เพราะหนี้จะหมดไวมาก
5. มีปัญหาหรือจ่ายไม่ไหวต้องเคลียร์กับเจ้าหนี้
หากทำตาม 4 ข้อข้างต้น ส่วนมากจะไม่ต้องมาถึงข้อนี้ แต่หากฉุกเฉินขึ้นมาหรือโชคชะตาไม่เป็นใจ ทำให้ขาดสภาพคล่อง ต้องไปเจรจากับเจ้าหนี้ทันที ขอผ่อนผัน ขอพักชำระ หรือ ขอปรับโครงสร้างหนี้อะไรก็ว่าไป แต่อย่าเงียบอย่าหนี้ เพราะสุดท้ายเป็นหนี้ก็ต้องใช้ การคุยก่อนถือเป็นการผ่อนหนักให้เป็นเบา หากหนีหายคุณจะเจอกับดอกเบี้ยและค่าปรับมโหฬาร
นี่คือวิถีการเป็นหนี้ที่ดี ถ้าปฏิบัติได้ตามนี้ ประโยชน์สูงสุดก็จะเกิดแก่ตัวท่านเอง แม้อาจจะไม่ทำให้ท่านมีความสุขหรือสบายใจช่วงที่เป็นหนี้ แต่หากผิดข้อใดข้อหนึ่งข้างต้นไปล่ะก็ รับรองเป็นทุกข์ 100%
หนึ่งเอง หนึ่งไง จะใครล่ะ ^^