ไม่มีรายการ

Passive Fund

ปั้นพอร์ตให้โตอย่างมั่นคงไปกับ Passive Fund

22 กันยายน 2565


อยากรวย อยากมั่งมี อยากมั่งคั่ง แต่ก็อยากมั่นคงด้วย ต้องลงทุนอย่างไร? บทความนี้จะพามาทำความรู้จักกับเทคนิค ปั้นพอร์ตให้โตอย่างมั่นคงไปกับ Passive Fund

ซึ่งก่อนหน้าเราได้เขียนเรื่อง การเสริมแกร่งพอร์ตด้วยกองทุนหุ้นเวียดนาม ไปแล้ว เพื่อนที่สนใจเทคนิคสามารถตามไปอ่านได้ที่นี่ "เสริมแกร่งพอร์ตด้วยกองทุนหุ้นเวียดนาม"

 

 

 

Passive Fund เป็นกองทุนรวมที่เน้นสร้างผลตอบแทนให้ได้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง (Benchmark) ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จึงมีอีกชื่อเรียกว่า “Index Fund” อย่างไรก็ตาม Passive Fund มีโอกาสที่ผลตอบแทนอาจจะสูงหรือต่ำกว่า Benchmark ได้ เนื่องจากสินทรัพย์ที่กองทุนไปลงทุนอาจไม่ได้เหมือนกับดัชนีอ้างอิงแบบ 100%

ส่วน Active Fund มีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีอ้างอิง (Benchmark) หรือต้องการเอาชนะตลาด ผู้จัดการกองทุนจะต้องใช้ความสามารถในการเลือกหลักทรัพย์เข้าพอร์ต โดยมีแนวทางการวิเคราะห์ในการเลือกหลักทรัพย์ 2 แบบได้แก่

1. Top-down Analysis

คือวิเคราะห์จากภาพรวมเศรษฐกิจ และลงไปในระดับอุตสาหกรรม ก่อนที่จะเลือกหุ้นแต่ละตัวจากปัจจัยพื้นฐาน

2. Bottom-up Analysis

จะตรงกันข้ามจากวิธี Top-down คือเป็นการเลือกตัวหลักทรัพย์ก่อนที่จะพิจารณาปัจจัยด้านอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจ

 

 

การลงทุนระยะยาวถูกพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพมากพอที่จะสร้างความมั่งคั่งได้อย่างยั่งยืน เห็นได้จากงานวิจัยที่พบว่า “การจัดสรรสินทรัพย์ลงทุน” เป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่อการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ด้วยสัดส่วนสูงถึง 91.5% (Index Fund ได้กระจายการลงทุนอย่างดีพอแล้ว) ขณะที่การคัดเลือกสินทรัพย์ลงทุน และการจับจังหวะตลาด ช่วงสร้างผลตอบแทนสูงเป็นครั้งคราวในระยะสั้น แต่ในระยะยาวไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สอดคล้องกับ Warren Buffett ที่เสนอแนวคิดที่น่าสนใจไว้ว่า “ไม่มีนักลงทุนคนไหนที่สามารถเอาชนะตลาดได้ในระยะยาว” และสิ่งที่เป็นศัตรูของนักลงทุนมากที่สุดก็คือ “ค่าใช้จ่าย” และ “อารมณ์”

ด้วยกลยุทธ์ที่ต้องการให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับตลาด Passive Fund จึงมีค่าธรรมเนียมและความเสี่ยงต่ำกว่า Active Fund เนื่องจากเป็นการลงทุนตามดัชนีอ้างอิง ช่วยลดต้นทุนในการบริหารจัดการ และลดความเสี่ยงจากการเลือกหุ้นผิดตัว

หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่าทำไมถึงต้องเลือกลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามตลาด แทนที่จะลงทุนเพื่อให้ผลตอบแทนสูงกว่าตลาด คำตอบก็คือในตลาดที่มีประสิทธิภาพ จะไม่มีใครสามารถทำผลตอบแทนได้ดีกว่าตลาดระยะยาวนั่นเอง

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนแบบเชิงรับ (Passive Fund) จึงเหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว เพราะนอกจากจะทนทานต่อภาวะวิกฤติแล้ว เวลาที่นานพอจะช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวน และช่วยสะสมความมั่งคั่ง แถมยังมีต้นทุนในการบริหารจัดการต่ำอีกด้วย

 

 

ขั้นตอนเลือก Passive Fund

1. เน้นกองทุนที่ได้ 3 ดาวขึ้นไป ตามการจัดอันดับของ Morningstar

2. ดู Tracking Error เน้นกองทุนที่ค่า Tracking Error ต่ำ เพราะ Passive Fund เป็นกองทุนที่เน้นให้ผลการดำเนินงานใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิงให้มากที่สุด

3. ดูค่าธรรมเนียม (ปกติจะใกล้เคียงกัน)

 

 

กองทุน Passive Fund ที่นำมายกตัวอย่าง ทั้งหมดเป็นกองทุนรวมหุ้นที่เน้นลงทุนให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิงของตลาดหุ้นประเทศนั้น ๆ

 

บทสรุป ของการปั้นพอร์ตให้โตกับ passive fund 

1. การจัดสรรค์สินทรัพย์ลงทุน เป็นส่วนสำคัญต่อผลการลงทุนพอร์ต

2. Warren Buffett ระบุว่า ไม่มีนักลงทุนคนไหนที่สามารถเอาชนะตลาดได้ในระยะยาว

3. การลงทุนระยะยาวจึงควรเน้นลงทุนใน passive fund 

บทความแนะนำล่าสุด


บทความอื่นๆที่น่าสนใจ