ไม่มีรายการ

ทำงานมาทั้งปี เรารวยขึ้นแค่ไหน

ทำงานมาทั้งปี เรารวยขึ้นแค่ไหน?

25 พฤศจิกายน 2567


เชื่อว่าปีนี้ก็คงเป็นอีกปีของหลายๆคน ที่พยายามทำงานมากขึ้น หารายได้ให้มากขึ้น เพื่อหวังว่าเราจะมีมั่งคั่งเพิ่มขึ้นและรวยมากขึ้น จนบางทีมารู้ตัวอีกที ชีวิตทั้งหมดในช่วงนี้ก็ไปโฟกัสแค่การทำงาน หาเงินอย่างเดียว

ผมเลยอยากชวนทุกคน ลอง หยุด ! และถอยออกมาดูกันหน่อยครับว่า ทำงานมาทั้งปี รวยขึ้นแค่ไหนกัน เพราะบางทีการมองแต่ข้างหน้า การหารายได้เยอะขึ้น ก็ไม่ได้การันตีว่าเราจะรวยขึ้นจริงๆ

ซึ่งอยากชวนทุกๆคนมารีวิว ความมั่งคั่งของเรากัน ผ่านการทำ Balance Sheet หรืองบดุลส่วนบุคคล

 

งบดุลส่วนบุคคล หน้าตาเป็นยังไง


ผมว่าเราทุกคนก็เหมือนบริษัทนึง เรามีรายได้ เรามี สินทรัพย์ (Asset) เรามี หนี้สิน (Liabilities)

สินทรัพย์ (Asset) ก็คือ มูลค่า ณ ตอนนี้ ของทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่เราได้มา เราซื้อมา ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ที่เพิ่งผ่อนหมด เงินสดในบัญชี บ้าน รถ นาฬิกา กระเป๋า ของที่มีมูลค่า สามารถขายเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

หนี้สิน (Liabilities) เป็นอีกฝั่งที่ก็เป็นของเราเช่นเดียวกัน แต่เป็นสิ่งที่เรายืมเขามา นั่นหมายความว่าเราก็ต้องคืนตามที่ตกลงกันไว้

ดังนั้น ถ้าเราอยากรู้ว่าเรารวยแค่ไหน เรามีความมั่งคั่งเท่าไร เราก็ต้องดูส่วนที่มันเป็นของเราจริงๆ
นั่นก็คือเอา สินทรัพย์ (Asset) - หนี้สิน (Liabilities)


ซึ่งการกรอกแยกฝั่งแบบนี้จะทำให้เห็นชัดเจนขึ้น ว่า ฝั่งไหนเยอะกว่ากันถ้าทรัพย์สินรวมเรามากกว่าหนี้สินรวม ก็ต้องบอกว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว

สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือ ทำให้ทรัพย์สินรวมมากกว่าหนี้รวมเเสมอ ซึ่งก็อาจจะเป็นในรูปแบบของการเก็บออม การลงทุน หรือซื้อทรัพย์สินที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น รวมถึงการพยายามลดฝั่งของหนี้สินลงเรื่อยๆ แต่ถ้าเรามีรายได้เยอะขึ้นก็จริง แต่เราซื้อของส่วนใหญ่ เป็นของที่ไม่ได้มีมูลค่าหรือซื้อแล้วมูลค่าก็ลดลงไปทุกวันๆ แบบนี้ก็เหมือนว่า เราทำงานแทบตาย แต่ไม่ได้รวยขึ้นเลย

เพราะ อย่าลืมครับว่า ความมั่งคั่งสุทธิ หรือความรวยของเราจริงๆ มาจากสิ่งที่เรายังไม่ได้จ่ายและจากมูลค่า ณ ตอนนี้ ของสิ่งที่เรามี


ถึงตรงนี้ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะครับ
ผมไม่ได้ต้องการให้คุณไม่ใช้จ่าย ไม่ซื้อของที่อยากได้ และไม่ใช่ของทุกอย่างที่มูลค่าลดลง หรือ ทำงานมาเหนื่อยๆ ห้ามซื้อความสะดวกสบาย แต่การมาคอยเช็ค ความมั่งคั่งของเราเอง ผ่านการทำ Balance Sheet หรืองบดุลส่วนบุคคล สัก 6 เดือนที 1ปีที เพื่อให้เห็นว่าความพยายาม ความอดทน ทำงานมาทั้งปี เรารวยขึ้นเท่าไรกัน

เพราะหลายครั้งที่ผมลองทำมา มันก็ชวนให้ได้หันกลับมามองตัวเองและคิดได้ว่า ถ้าเราปรับความต้องการบางอย่าง เรามีทางเลือกอื่นมากกว่าวิ่งๆทำงานไปข้างหน้า จนไม่มีเวลาให้ตัวเองและคนรอบข้างแต่เราไม่รวยขึ้นเลย

บทความแนะนำล่าสุด


บทความอื่นๆที่น่าสนใจ