ไม่มีรายการ

how to หาเงิน แบบจับเสือมือเปล่า ฉบับพนักงานออฟฟิศ

how to หาเงิน แบบจับเสือมือเปล่า ฉบับพนักงานออฟฟิศ

09 มีนาคม 2563


ใครหลายคนยังมีรายได้หลักจากเงินเดือนและกำลังมองหารายได้เพิ่ม จึงถาม กูเกิล ค้นพันทิป ดูยูทิวบ์ ถามเพื่อนฝูง ปรึกษาแฟน ฟังพอดคาสต์...

แต่ถึงกระนั้น ก็อาจจะยังไม่ได้ทดลองลงมือทำสิ่งใด..ด้วยเหตุผลแตกต่างกันไป หนึ่งในนั้นดิฉันมองว่ามีเรื่องของ "เงินทุน" และ "ความเสี่ยง" เข้ามาเป็นตัวเบรกจุดเริ่มต้น

วันนี้คิดเสียว่า..ดิฉันเป็นเพื่อนร่วมทางในฐานะมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่ง ที่ทำงานวันละ 8 ชั่วโมงเหมือนกัน และอยากจะมาแบ่งปัน "วิธีหาเงิน" แบบจับเสือมือเปล่า ไม่เวอร์ ไม่ต้องลงทุน แต่เป็นไปได้

ก่อนอื่นอยากถามว่าเพื่อนๆ อ่านข่าว อ่านบทความ มาเท่าไหร่แล้วบ้าง งานที่ทำเราเชี่ยวชาญเรื่องอะไร และปกติติดตามหรือสนใจเรื่องไหนเป็นพิเศษ และถ้าวันนี้ดิฉันจะชวนย้ายมาอยู่ฝั่งของ "นักเขียน" บ้างล่ะ!

 

ใช่แล้ว!เรากำลังพูดถึง "การเขียนบทความขาย"

เราจะทำได้จริงไหม และใครจะมาซื้อ

ต้องออกตัวก่อนว่าแม้ดิฉันเป็นนักข่าว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีความสามารถในการ "เขียนบทความ"ได้ดีเสมอไป เพราะบทความมีหลากหลายประเภท นักข่าว ไม่ได้รู้ไปเสียทุกเรื่อง ทุกวันนี้ดิฉันยังต้องเรียนรู้และพัฒนาฝีมือด้านงานเขียนอยู่

จะบอกว่าบทความตามเว็บไซต์ต่างๆ ก็ไม่ได้มาจากนักข่าวทั้งหมดสักหน่อย แต่คนเขียนอาจจะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เป็นคนว่างงาน เป็นฟรีแลนซ์ หรือมนุษย์เงินเดือนในสายงานต่างๆ เขาเหล่านั้น ลงมือเขียนในเรื่องราวที่ตนเองถนัด แล้วก็นำบทความสำเร็จรูปไปวางขาย หรือไม่ก็ได้รับการว่าจ้างจากเจ้าของเว็บ

เจ้าของเว็บไซต์ ไม่มีเวลามานั่งเขียนบทความ (แม้อยากจะประหยัดค่าใช้จ่ายก็ตาม) เขาจึงต้องยอมลงทุนซื้อบทความสำเร็จรูป หรือไม่ก็ "ว่าจ้างนักเขียน" ทั้งแบบประจำและแบบไม่ประจำ เพื่อเขียนงานตามออร์เดอร์

ดังนั้น ทุกคนสามารถเขียนได้ เพราะเว็บไซต์มีหลายประเภทมากๆ เช่น เกม ไอที กีฬา บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ความงาม อาหาร การศึกษา การเกษตร การแพทย์ แม่และเด็ก สุขภาพ ท่องเที่ยว ธรรมะ รีวิวสินค้า ฯลฯ ความต้องการบทความจึงหลากหลายแนว ดังนั้น มีตลาดที่รอซื้อผลงานคุณๆ ที่มีความถนัดในแต่ละด้านอยู่ค่ะ

เริ่มต้นเขียนบทความ จากเรื่องที่เราถนัด

อะไรที่เราชอบก็มักจะทำมันออกมาได้ดี เช่น หากชอบเรื่อง สุขภาพ ก็ลองเริ่มต้นเขียนบทความเกี่ยวกับสุขภาพ แนวทางการเขียนก็อาจจะเป็นการบอกเล่าประสบการณ์ของเราเกี่ยวกับสุขภาพ หรือการให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ (เราก็ค้นคว้าเพิ่มเติม) แต่ทุกครั้งต้องมีเป้าหมายในใจว่า เราจะเขียนเรื่องนี้ เพื่อให้อะไรกับคนอ่าน

ตัวอย่างบทความ ก็ทั้งหมดที่เราอ่านในโลกออนไลน์นั่นละค่ะ อ่านให้มาก จากนั้นฝึกเขียน หารูปแบบของเราให้เจอ ขอแนะนำให้หาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเขียนบทความ SEO ทำความรู้จักกับคำว่า "SEO" ลองค้นในกูเกิลคีย์คำว่า "บทความ SEO" หรือ "SEO" มีเพียบเลยค่ะ ศึกษาและทำความเข้าใจว่าทำไมต้องเขียนให้กูเกิลอ่านด้วย (ไม่ใช่แค่ให้คนอ่าน)

เริ่มแรกลองเขียนสัก 350-500 คำโดยประมาณนะคะ เพราะถ้ายาวเกินไป สำหรับมือใหม่อาจจะรู้สึกท้อแท้ไปเสียก่อน และควรเขียนเตรียมไว้สัก 3-4 เรื่อง เพื่อจะได้เป็นตัวอย่างเวลาขายงาน และไม่ต้องกังวลหลักการมาก (แต่ต้องเขียนให้รู้เรื่อง) เพราะนายจ้างบางคนก็นำบทความไปปรับแต่ง ไปแทรกคีย์เวิร์ดเพิ่มเติมเอง เพื่อให้บทความดันอันดับเว็บ

เราก็อาจจะเสนอราคาไม่ต้องสูงมาก สำหรับการเริ่มเขียนในช่วงแรกๆ จากนั้นถ้าเราได้โอกาสจากผู้ว่าจ้าง เราก็ค่อยๆ พัฒนาฝีมือไปค่ะ

นำบทความไปวางขายในตลาด

เอาล่ะ! เมื่อมีบทความก็เท่ากับมีสินค้าพร้อมแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการนำสินค้าไปวางขายในตลาด ซึ่งราคาตลาดที่ซื้อขายกันในตลาดจะนับเป็นคำๆ เลยนะคะ เท่าที่สำรวจดูคร่าวๆ ในตอนนี้

100 คำ ราคาเริ่มต้นมีตั้งแต่ 10 บาทไปจนถึง 60 บาท ซึ่งราคาเริ่มต้นที่ 10 บาท จะเป็นบทความทั่วๆ ไป ความสวยความงาม สุขภาพ เครื่องประดับ ของใช้ ไอที สัตว์เลี้ยง ไลฟ์สไตล์ ฯลฯ แต่หากเป็นบทความที่เฉพาะทาง เช่น การเงิน การลงทุน ภาษี นักเขียนจะคิดราคาขยับขึ้นไปตามความยากของงาน

นั่นหมายความว่าใน 1 บทความจำนวน 500 คำ หากขายได้เราจะได้เงิน 50 บาทเป็นอย่างน้อย หรืออย่างมาก 300 บาทขึ้นไปต่อบทความ (หากคิดในอัตรา 100 คำ = 60 บาทขึ้นไป ซึ่งขึ้นอยู่กับการตั้งราคาของนักเขียนแต่ละคน)

⦁ กลุ่มตามเฟซบุ๊ก

เราเองก็สามารถนำบทความที่เขียนไว้นำไปประกาศขายได้ (อาจจะแจ้งว่าเรามีบทความสำเร็จรูปเรื่องอะไร กี่คำต่อบท และขายราคาเท่าไหร่)หรือไม่ก็เข้าไปสำรวจดูว่า มีใครมามีใครมาโพสต์ประกาศรับซื้อบทความบ้าง หากเป็นแนวที่เราถนัด อยากลองเขียน อย่าช้าค่ะ

กลุ่มในเฟซบุ๊กจะมีทั้งกลุ่มที่เปิดสาธารณะ และกลุ่มที่ต้องขออนุญาตเจ้าของกลุ่มก่อน เพื่อนๆ สามารถค้นในเฟซบุ๊กด้วยคีย์เวิร์ด "บทความ" "เขียนบทความ" เป็นต้น แล้วขอเข้าร่วมกลุ่ม ลองเข้าไปศึกษาดูงานตามกลุ่มเฟซบุ๊กก่อนก็ได้ว่าเขาประกาศหางานกันอย่างไร แต่ละคนมีเทคนิคการขายอย่างไร เราจะได้คลำทางถูก

ยกตัวอย่างเช่น กลุ่ม "Content Writer ฟรีแลนซ์ นักเขียน บทความ หางาน จ้างงาน" ที่นี่จะเป็นแหล่งรวม Freelance นักเขียนคอนเทนต์,กลุ่ม "ตลาด ซื้อ-ขาย บทความ และ E-books ที่นี่" และกลุ่ม "ซื้อขายบทความ" เป็นต้น

⦁ เปิดเพจเฟซบุ๊กรับเขียนบทความ

วิธีนี้อาจจะเหมาะสำหรับคนที่เริ่มจะเขียนคล่องแล้ว และอยากมีหน้าร้านก็สามารถเปิดเพจเฟซบุ๊ก รับจ้างเขียนบทความกันไปเลยค่ะ หาบ้านให้ตัวเองสิงสถิตย์ ดูมีระดับขึ้นมาอีกหน่อย เพราะนักเขียนหลายคนก็เปิดเพจเป็นของตัวเอง เพื่อเอาไว้เป็นหน้าร้านเวลารับงาน

ลองทดสอบซื้อโฆษณาสักหน่อยก็ดีค่ะ แล้วเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการ เช่น อายุ เพศ จังหวัด และหาคีย์เวิร์ดที่น่าจะเกี่ยวข้อง เช่น บทความ งานเขียน เป็นต้น เพราะว่าการซื้อโฆษณาจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งานเร็วขึ้นอีกทางหนึ่งค่ะ (ตรงนี้คิดซะว่า เอาเงินค่ากาแฟมาแปลงมาเป็นเงินซื้อโฆษณา เพื่อหารายได้เพิ่มค่ะ)

⦁ ขายผ่านเว็บฟรีแลนซ์

วิธีนี้ก็แจ่มเหมือนกันค่ะ เป็นที่นิยมของฟรีแลนซ์ทั้งหลาย ผู้ว่าจ้างจะเข้ามาคัดเลือกนักเขียนจากในนี้ และผู้ว่าจ้างสามารถให้เรตติ้งและรีวิวกับฟรีแลนซ์ได้ โดยมีทางเว็บเป็นตัวกลางประสานงานให้ ลดโอกาสที่เราจะโดนหลอกจากผู้ว่าจ้าง (ที่ชิ่งนักเขียน ไม่จ่ายตังค์ ) และผู้ว่าจ้างก็ลดความเสี่ยงจากการที่ฟรีแลนซ์เชิดงานด้วยระบบที่ทางเว็บวางไว้ ลองเข้าไปศึกษารายละเอียดกันได้ อย่างเช่น เว็บไซต์ Fastwork.co , Thaiseoboard.com เป็นต้น

รายได้ตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักหมื่นต่อเดือน

ดิฉันใช้เวลาช่วงวันปกติตอนกลางคืน บางครั้งก็วันหยุดในการเขียนงาน ซึ่งก็ไม่ได้เกี่ยวกับความรู้ที่ดิฉันมีดั้งเดิมนะ พวกเครื่องราง ของขลัง แก้ว แหวน ไก่ชน สินค้าเกษตร..(เผลอๆ เป็นเรื่องที่เพื่อนๆ หลายคนถนัด มากกว่าดิฉันเสียอีก)

รายได้จากการเขียน "บทความ" มีตั้งแต่หลักร้อย หลักพันบาท หลักหมื่นบาทต่อเดือน ดิฉันเคยเขียนได้บางเดือน 7-8 พันบาท โอ้โห ดีใจโคตรๆ (เพราะไม่เคยเขียนบทความจริงจัง ปกติจะเขียนข่าว) มันอาจจะไม่มาก แต่ชอบตรงข้อดีของมันคือ เราไม่ต้องลงทุน เราใช้แค่เวลาว่าง เราไม่เสี่ยงอะไรเลย มีแต่กำไรเนื้อๆ

น้องๆ บางคนเดือนหนึ่งรับหลายหมื่นบาทก็มีค่ะ ฟรีแลนซ์บทความ เขียนเรื่องทั่วๆ ไปนี่แหละ ดิฉันถึงบอกว่า มันคืองานแบบ "จับเสือมือเปล่าจริงๆ" และมนุษย์เงินเดือนก็น่าจะสามารถทำได้ ทำอยู่กับบ้านมีแค่เครื่องคอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ต บางครั้งก็หามุมนั่งชิลๆ ตามร้านกาแฟในวันหยุด

ยิ่งถ้าได้ลูกค้ามาสักรายสองรายแล้วเราเขียนถูกใจเราก็มีโอกาสที่จะได้รับงานเรื่อยๆ ถ้าเราทำเป็นงานเสริม มีลูกค้ารายเดียว ก็เขียนจนมือระวิงแล้วค่ะเพราะ ปกติเวลาสั่งงานเขาจะส่งมาเป็นชุดๆ ค่ะ เพื่อเอาไปทยอยขึ้นเว็บไซต์

ท้ายนี้อยากบอกว่า หากใครยังไม่มีเงินออมหรือยังมีออมน้อยอยู่ ก็ให้รายได้เสริมหลักร้อย-หลักพันบาท จากงานเขียนนี้ละค่ะเป็น "จุดเริ่มต้นของการออม" หรือ "การลงทุน" ไม่ว่าจะเป็นการออมทองคำ ออมหุ้น ซื้อกองทุน ลงทุนบิตคอยน์ หรืออะไรก็ได้ ตามความเสี่ยงที่รับไหว ส่วนเงินเดือนเราก็ใช้จ่าย ใช้หนี้ ใช้อยู่ ใช้กิน

ดิฉันจะดีใจมากๆ เลยถ้าเพื่อนๆ ลองเขียนและได้เงินเข้ากระเป๋าจริงๆ แต่หากทำแล้ว ลองแล้วมันไม่เวิร์ค ก็ไม่ต้องไปซีเรียส แค่เปลี่ยนไปหาอย่างอื่นทำ เพราะงานนี้ไม่มีเสียอะไรเลยค่ะ ^_^

บทความแนะนำล่าสุด


บทความอื่นๆที่น่าสนใจ