ไม่มีรายการ

รู้ทัน! โปรโมชั่นผ่อน 0%

รู้ทัน! โปรโมชั่นผ่อน 0%

19 มิถุนายน 2563


อ่านให้จบนะเรื่องนี้

สำคัญมาก !!!

พยามเขียนให้กระชับที่สุดละ

จะได้ไม่เบื่อ...

เพราะอยากให้อ่านจริง ๆ

สำคัญจริง ๆ

อ่านเถอนะ ขอล่ะ...

จริง ๆ นะ ...

 

ยัง

ยัง

ยังไม่เข้าเรื่องอีก !

 

พวกโปรโมชั่นผ่อน 0% เนี่ย

มองด้วยตา ซื้อด้วยใจ

ยังไงเราก็คุ้มเนอะ...ว่าแมะ ?

รับของไปเลย เดือนหน้าค่อยเริ่มผ่อน

ที่สำคัญ ไม่มีดอกเบี้ย !!!

สุดแสนประเสริฐเลิศสะแมนแตน

 

แต่คุณรู้หรือไม่ว่ามันมี "กับดัก" ซ่อนอยู่

หรือไม่ได้อยากรู้ อยากได้ของมากกว่า

หรือก็รู้แหล่ะ แต่แล้วไงอะ มีปัญญาผ่อน

หรือ...สมมติผมรู้ว่าคุณรู้

แต่ผมก็อยากรู้ว่าคุณจะรู้เหมือนที่ผมรู้ไหม

เฮ้ย ! จะ “รู้” อะไรนักหนา เล่ามาได้แล้ว

(เนี่ย...ผมรู้ว่าคุณคิดแบบนี้ ฮ่า ๆ จะได้ “รู้” มากไง มีตั้งหลายคำ)

 

 

ทำความเข้าใจก่อนว่าโปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% ใครได้อะไรบ้าง

1. ร้านค้า

คนนี้ได้ขายของ

ได้ขายของแพงด้วย

เพราะถ้าของถูกก็ไม่จำเป็นต้องผ่อน

 

2. ผู้ซื้อ

คนนี้ได้ของแน่ ๆ ล่ะ

ได้ของแพงด้วย

ได้อวด ได้ภูมิใจ ได้สิ่งที่ต้องการ

จำเป็นไหมอีกเรื่องหนึ่ง !

 

3. ผู้ให้บริการบัตรเครดิต

คนนี้เหมือนไม่ได้อะไรเลยเนอะ

ดอกเบี้ยก็ไม่ได้

แถมรับความเสี่ยงหนี้เสียอีก

อาจจะได้ "ลูกค้า" เพิ่มมั้ง

หรือได้ยอดการใช้จ่ายหมุนเวียน

หรือใจดี อยากให้คนได้ของที่ต้องการ

 

หรืออาจจะไม่ใช่เลยสักอย่างข้างต้น

เพราะนี่คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิด !

 

ความเป็นจริงผู้ได้ประโยชน์สูงสุดที่แท้จจริงคือ...

ผู้ให้บริการบัตรเครดิต นั่นแหล่ะครับท่าน

งงดิ ? ลองอ่านดูนะ...

 

ที่จริงกลไกของระบบการผ่อน 0% มันเป็นแบบนี้

 

1. ผู้ให้บริการบัตรเครดิตตกลงกับร้านค้า

"จัดโปรแบบนี้ไหม จูงใจลูกค้า และกระตุ้นยอดขายได้ดีเลยนะ"

"ของแพง ต้องจัดโปรผ่อน 0% เพิ่มโอกาสและความง่ายในการซื้อ"

"แต่คุณต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับเรานะ"

นี่คือสิ่งที่บัตรเครดิตจะได้ในสเต็ปแรก

ผมก็เพิ่งรู้เว้ย...ว่าร้านค้าต้องจ่ายค่าธรรมเนียมธุรกรรมนี้ให้บัตรเครดิต

มันก็เหมือนเป็นดอกเบี้ยรับของบัตรเครดิตนั่นแล...

เท่าที่สอบถามบรรดาร้านค้าที่รู้จัก

บัตรเครดิตจะคิดค่าธรรมเนียมประมาณ 1-3% ของราคาสินค้า

สังเกตได้บางร้านมีผ่อน 0% นะ แต่คิดค่ารูดบัตร 2-3% อันนั้นแหล่ะท่าน

แต่เราไม่ได้ใส่ใจไง เพราะอยากได้ของจนมองข้ามมันไป

 

ดูเหมือนบัตรเครดิตได้อะไรไม่มากนะ

ถ้าเทียบกับดอกเบี้ยการผ่อนแบบมีดอกเบี้ยปกติ

แต่อันนี้บัตรเครดิตจะได้เป็นรายชิ้นนะยะ ไม่ใช่รายปี

ยิ่งขายได้มาก บัตรเครดิตก็ได้มาก

ก็แค่แบกความเสี่ยงนิดหน่อย แต่มันมีออปชั่น (เดี๋ยวเล่า)

 

2. ร้านค้ายังได้ขายของเหมือนเดิมแหล่ะ

แต่เขาคิดราคาบวกค่าธรรมเนียมนี้ไปตั้งแต่ต้นทางการตั้งราคาแล้ว

อาจจะดูว่า "ลดราคา" แต่ก็ลดจากกำไรอยู่ดีแหล่ะ

ลองสังเกตดูนะ สินค้าบางรายการ ซื้อเงินสดจะถูกกว่า

โดยเฉพาะในออนไลน์ 2 เจ้าดังน่ะ ลองไปเช็คดูได้เลย

เกือบทุกอันที่ผ่อน 0% ได้ ราคาจะแพงกว่าเสมอ

(ช่วงโควิด-19 นี่ผมเข้าวงการช้อปออนไลน์

ซื้อไปหลายรายการละ แต่ละอย่าง 5,000 บาท +++

มีให้ผ่อนด้วยนะ แต่ทุกอันที่ผ่อนแพงกว่าทั้งหมด

เลยตัดใจจ่ายสด งดเชื่อ เบื่อโดนทวง)

หรือตามห้างสินค้าบางรายการหากซื้อสดจะมีส่วนลดเพิ่มหรือมีของแถม

ให้ดูเหมือนว่าจ่ายสดแล้วดีกว่า

จริง ๆ คือร้านค้าไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมไง

อาจจะมีสินค้าบางรายการที่ราคาเท่ากันทั้งสดและผ่อน

แต่ราคานั้นบวกค่าธรรมเนียมไปแล้วนะ...

เพื่อที่จะได้เอามาถัวเฉลี่ยต้นทุนกับสินค้าที่ผ่อน 0%

 

3. คนซื้อก็ยังได้ของเหมือนเดิม

แต่ก็ได้หนี้มาเป็นภาระในมือนะยะ

จะ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี ยัน 3 ปีอะคิดดู

แม้จะไม่มีดอกเบี้ย แต่...

 

4. หากคุณผิดนัดชำระวันใดขึ้นมา

จากดอกเบี้ย 0% จะเข้าระบบดอกเบี้ยปกติทันที

และรู้กันอยู่แล้วว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตมันโหดแค่ไหน

18% ต่อปี แบบ 2 เด้ง !!!

แถมเจอค่าติดตามทวงถามอีก

ความโลกสวยดอกเบี้ย 0% ของท่านจะหายไป...

 

นี่ไงที่บอกไว้ข้างต้น

แม้ผู้ให้บริการบัตรเครดิตจะได้ค่าธรรมเนียมไม่มาก

แถมมีความเสี่ยงหนี้เสียอีก

แต่เขาได้เปิด "กับดัก" รองับไว้แล้ว

ผิดนัดเมื่อไหร่ จ่ายกันบานแน่


สุดท้ายแล้วผู้ที่ได้ประโยชน์ที่สุดในระยะยาว

คือ "ผู้ให้บริการบัตรเครดิต" ได้หลายเด้งหลายต่อ

ผู้ที่มีความเสี่ยงที่สุดคือ "พวกเราคนซื้อ" นั่นแล


ดังนั้นขอแนะนำว่า...

หากไม่มีเงินสดสำรองครอบคลุมราคาสินค้า

อย่าผ่อนเลย จะ 0% จะ 100% ก็เถอะ

เพราะไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น

หากช็อตขึ้นมาจะเอาที่ไหนมาจ่าย

เดี๋ยวก็พังกันหมด !

 

หรือจำเป็นต้องใช้ของเหล่านั้นจริง ๆ ต่อการงานและการดำรงชีวิต

ไม่ใช่ "ของมันต้องมี" อะไรแบบนี้นะ

ต้องแน่ใจว่าภาระผ่อนนั้น ๆ เมื่อรวมหนี้ทั้งหมดที่มี ไม่เกิน 40% ของรายได้

และไม่ควรผ่อน 0% หลายชิ้นในเวลาเดียวกัน

แม้จะไม่มีดอกเบี้ย แต่มีค่างวด พอรวมกันหลายยอด มันจะกระทบสภาพคล่องได้

 

สุดท้ายจำไว้ว่า การผ่อน 0% เป็น "หนี้" แค่ไม่มีดอกเบี้ย

มันมีภาระผูกพันและเงื่อนไขรวมทั้ง "กับดัก" ที่รอเล่นงานเราอยู่


โอเค...หากคุณมีเงินสดพร้อมซื้อ

การผ่อน 0% เป็นทางเลือกการสำรองเงินก้อนไว้

แต่ต้องมีจริง ๆ นะ อย่ามโนว่าเดือนหน้าก็มี

เพราะมันคือการ "หลอกตัวเอง"

หลอกใครก็หลอกได้ แต่อย่าหลอกตัวเอง

ให้ดูคุณ "โจโฉ" เป็นตัวอย่าง

"ยอมทรยศคนทั้งแผ่นดิน แต่ไม่ให้ใครมาทรยศตัวเอง"

(เกี่ยวแมะ...เกี่ยวแหล่ะ...เกี่ยวมั้ง...เกี่ยวเถิดนะแม่เกี่ยว)

สุดท้ายก็ยาวเหมือนเดิม แต่รักนะอยากให้อ่าน ^^

 

ชอบกด Like ใช่กด Share อยากดูแลก็ Inbox มาน้าาาาา...

 

/////////////////////////

หากคุณต้องการรวมหนี้ เพื่อแก้หนี้
สามารถยื่นสมัครสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อการแก้หนี้ได้ที่นี่ >> สมัคร คลิก

 

บทความแนะนำล่าสุด


บทความอื่นๆที่น่าสนใจ