ไม่มีรายการ

ชีวิตการเงินอาจจะพัง ถ้ายังบริหารความเสี่ยงไม่ดี

ชีวิตการเงินอาจจะพัง ถ้ายังบริหารความเสี่ยงไม่ดี

23 กุมภาพันธ์ 2567


เคยมีความคิดแบบนี้กันไหม ?

‘ไม่ต้องมีหรอกเงินสำรองฉุกเฉิน เอาเงินส่วนนั้นไปซื้อความสุขให้ตัวเองดีกว่า”

“ชีวิตมันคงไม่ซวยต้องมาเจออุบัติเหตุหรอก”

“จะทำประกันไปทำไม ทำไปก็เหมือนเสียเงินไปฟรีๆ’

นั่นเป็นเพราะตัวเราในตอนนั้น ยังไม่เคยเจอกับความเสี่ยงหรือเคยเจออุบัติเหตุที่ทำให้เราต้องหันมาสนใจเรื่องการปกป้องความเสี่ยง เหมือนตอนที่ผมยังเป็นเด็ก ไม่มีความคิดว่าจะเก็บเงินเลย ได้เงินมาเท่าไหร่ก็ใช้หมด

จนมาเจอจุดเปลี่ยนในชีวิตที่พ่อของผมเกิดเป็นโควิดและไม่สามารถทำงานต่อได้ ทำให้รายได้ในครอบครัวหาย และที่แย่ที่สุดคือไม่มีเงินสำรองฉุกเฉินเลย ทำให้แม่ต้องตัดสินใจขายทรัพย์สินที่แม่เก็บมาทั้งชีวิต อย่างพวกทองและที่ดินไป เพื่อประทังชีวิตครอบครัวเอาไว้ก่อน วันนั้นแหละ เป็นวันที่ผมหันมาสนใจเรื่องการเงินในทันที และทำให้รู้ว่าเรื่องแย่ๆเกิดขึ้นกับเราได้เสมอ ถ้าเราบริหารความเสี่ยงได้ไม่ดี

พอผมเรียนจบ และได้ต้นเริ่มทำงาน เริ่มมีเงินเดือนก้อนแรกเป็นของตัวเอง ผมก็เริ่มต้นแบ่งเงินเป็นสัดส่วนทันที

 

เงิน 4 ส่วนที่ผมแบ่งไว้

ส่วนที่ 1 แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายประจำวัน

 
ค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่าน้ำ ค่าไฟและค่าใช้จ่ายประจำวัน 
 

ส่วนที่ 2 แบ่งเป็นเงินออมและการลงทุน

 

เป็นเงินสำหรับการลงทุนเพื่อสร้างมั่งคั่งให้กับตัวเราในอนาคต โดยผมแนะนำว่าควรนำเงินส่วนนี้ไปลงทุนในสินทรัพย์ที่เราถนัด และมีความรู้นะครับ ในปัจจุบันก็มี ตลาดหุ้น , กองทุนรวม , อสังหาริมทรัพย์ หรือจะเป็นการต่อยอดด้วยการลงทุนขายของออนไลน์ก็นับว่าเป็นการลงทุนเช่นกัน

ส่วนที่ 3 แบ่งให้รางวัลตัวเอง

 

ทำงานมาเหนื่อยๆ ก็ให้รางวัลตัวเองบ้าง ซึ่งผมก็มีเงินส่วนนี้ที่แบ่งไว้สำหรับให้รางวัลตัวเองด้วย ไม่ว่าจะเป็นการไปกินบุฟเฟต์ร้านที่ชอบ ซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆที่อยากได้

 

ส่วนที่ 4 แบ่งไว้ป้องกันความเสี่ยง

 

และเงินส่วนสุดท้ายที่สำคัญสำหรับผมมาก คือเงินที่ไว้สำหรับป้องกันความเสี่ยง เริ่มต้นจากการแบ่งเงินส่วนนี้ไว้เป็นเงินสำรองฉุกเฉิน อย่างน้อย 6 เท่าของรายจ่ายต่อเดือน และอีกส่วนนึงก็แบ่งไว้สำหรับทำประกันอุบัติเหตุ เพราะว่า การเดินทางมาทำงานในแต่ละวันของผมนั้นมันสุ่มเสี่ยงมาก เพราะต้องขี่มอเตอร์ไซค์มาทำงาน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย และก็สะดวกรวดเร็ว เพราะอย่างที่เรารู้กันว่า กรุงเทพรถติดมากกกกกก แต่ก็ต้องแลกมาด้วยกับความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ ผมเลยทำประกันติดตัวไว้เพื่อโอนความเสี่ยงที่เราต้องรับ ไปให้กับทางบริษัทประกันรับภาระแทน ทำไว้ก็อุ่นใจกว่า 555

โดยประกันที่ผมเลือกทำคือ ประกันอุบัติเหตุ PA for All จากกรุงเทพประกันภัย เพราะค่าเบี้ยถูก เฉลี่ยวันละ 3 บาทเท่านั้น แต่ได้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 100,000 บาทต่อครั้ง แถมถ้าต้องนอนโรงพยาบาลก็ได้รับเงินชดเชยอีกวันละ 500 บาท แถมคุ้มครองคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์แบบผมด้วย ใครที่ต้องเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์บ่อยๆแบบผม หรือชีวิตประจำวันค่อนข้างเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย ผมก็แนะนำให้ทำติดตัวเอาไว้นะครับ เพราะคุ้มครองในเรื่องการถูกทำร้ายร่างกายด้วยนะ

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันอุบัติเหตุ PA for All จากกรุงเทพประกันภัย

ได้ที่นี่เลย https://url.in.th/pa-for-all02

สุดท้ายนี้ผมก็อยากฝากให้ทุกคน นึกถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับเราให้มากๆนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเสี่ยงตกงาน เสี่ยงขาดรายได้ เสี่ยงอุบัติเหตุ และสร้างเกราะป้องกันในความเสี่ยงที่เราจะต้องเจอ ถ้าเสี่ยงที่จะตกงานก็ให้วางแผนสร้างเงินสำรองฉุกเฉินเอาไว้ ถ้าตกงาน รายได้หายเมื่อไหร่จะได้มีเงินสำรองส่วนนี้ในการประทังชีวิตไปก่อน หรือถ้าเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ เจ็บป่วยบ่อย ก็ให้ทำประกันเอาไว้ เพื่อโอนความเสี่ยงในด้านของค่าใช้จ่ายไปให้ทางบริษัทประกันแทน

บทความแนะนำล่าสุด


บทความอื่นๆที่น่าสนใจ