ไม่มีรายการ

เป้าหมายการเงิน จำเป็นต้องมีจริงไหม ?

เป้าหมายการเงิน จำเป็นต้องมีจริงไหม ?

19 กุมภาพันธ์ 2567


ทำงาน หาเงิน ใช้เงิน ไม่พอหรอ ?

 

ทำไมต้องมีเป้าหมายการเงิน แล้วเป้าหมายการเงินที่ใช่เป็นยังไง…จำเป็นต้องมีจริงไหม ? 

 

หลายครั้งที่ผมชวนทุกคน วางแผน วางเป้าหมายการเงินกันในช่วงสิ้นปีไปจนถึงต้นปีใหม่ของอีกปี

 

ซึ่งมันน่าจะช่วยให้หลายๆคนเห็นทิศทาง เห็นเป้าหมายของตัวเองชัดขึ้น เพื่อเลือกที่จะทำสิ่งที่มันสอดคล้องและเลือกไม่ทำสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับเส้นทางที่เราจะไป

 

แต่ไม่นานนี้ผมก็ได้เจอกับคำถาม คำถามนึง

 

 “ทำงาน หาเงิน ใช้เงิน แค่นี้ก็เหนื่อยแล้ว … เราต้องมานั่งตั้งเป้าหมายการเงินอีกหรอ เป้าหมายการเงินจำเป็นจะต้องมีจริงไหม?” 

 

ผมว่าเป็นมุมกลับที่น่าคิดดีครับ เลยอยากชวนทุกคนมาหาคำตอบนี้กัน



ก่อนอื่น อยากชวนมานั่งคิดๆ กันก่อน ว่าคุณนิยามคำว่า “เป้าหมายการเงิน” กันยังไงบ้าง 

.

ลองหยุดคิดสัก 5 วิ !!!

.

ผมว่ามันก็น่าจะมีคำตอบหลากหลายพอควร แต่ในหลายๆคำตอบ ที่ผมได้ฟังมาจากหลายคน 

 

นิยามมันดูจะเป็นนิยามใหญ่ๆ ยากๆ ไกลๆ 

อย่างเช่น 

 

-เป้าหมาย เก็บเงิน 1 ล้านบาทแรก  

-ฉันจะต้องมีเงินเก็บ 10 ล้าน ใน 10 ปี 

-เราต้องเก็บเงินเกษียณ



เมื่อเรามีภาพกับคำว่าเป้าหมายการเงินที่มันดูใหญ่ ดูยาก หลายครั้งเราก็รู้สึกเหนื่อยที่จะทำ และล้มเลิกเมื่อหมดพลังใจ 

 

ซึ่งคำตอบเหล่านี้ไม่ได้ผิดอะไรนะครับ แต่เพียงแค่ เป้าหมายการเงิน ไม่ใช่เรื่องใหญ่ จำนวนเงินเยอะ หรือ ระยะเวลานาน เพียงอย่างเดียว !!

 

ถ้าผมลองปรับคำใหม่ละ ? 

 

“เป้าหมายการใช้เงิน” 

 

พอจะเห็นภาพขึ้นไหมครับ 

ว่าจริงๆแล้ว เป้าหมายการเงิน มันคือทุกเรื่องเลยครับ ที่คุณจะต้องใช้เงิน ตั้งแต่จะใช้เงินยังไงให้เหลือเงินเก็บต่อเดือนบ้าง จะเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่จะผ่อนไหวไหม 

มันคือ ทุกเรื่องเลยครับที่ต้องใช้เงิน

 

เมื่อมาถึงตรงนี้…

แล้วการใช้จ่ายปกติ อยากได้ก็ซื้อ อยากใช้ก็รูด ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

 

จำเป็นต้องมาเขียนเป็นเป้าหมายการเงิน ทำไมให้วุ่นวาย ?

 

ลองไปดูเหตุผล 3ข้อนี้กันครับ



1.เมื่อความอยากเราหลากหลาย แต่มีเงินจำกัด 

 

คุณจะเลือกทำอะไรหรือไม่ทำอะไรได้ง่ายขึ้น บางครั้งพอเราไม่เห็นมันเป็นเป้าหมาย เราไม่โฟกัส หลายๆอย่างไปบู้เอาข้างหน้า มันก็ทำให้เราจัดลำดับความสำคัญผิด 

อย่างบางเคสอาจจะอยากซื้อรถปีนี้ แต่อีก 2 ปี ต้องส่งลูกเรียน พอไปบู้เอาข้างหน้ากลายเป็นว่ารถก็ผ่อนตึงมือ ความฝันที่อยากส่งลูกเรียนโรงเรียนดีๆ ก็ต้องลดคุณภาพลง



2.เลือกใช้เครื่องมือที่ถูก และกังวลลดลง

 

ถ้าคุณมีแพลนจะเรียนต่อใน 1 ปีข้างหน้า การเอาเงินไปเก็บที่ที่เสี่ยงสูง เพื่อความหวังผลตอบแทนสูง อาจเป็นสิ่งที่ไม่น่าสนุกเท่าไหร่ เพราะถ้าเจอช่วงตลาดไม่ดี นอกจากผลตอบแทนจะไม่ได้แล้ว ยังต้องมากังวลว่าจะหาเงินต้นที่ไหนมาใส่ เพื่อให้มีพอใช้สำหรับเรียนต่ออีก 

 

แต่ถ้าเป้าหมายใช้เงินก้อนนี้คืออีกนาน เอาไปใส่ใน SSF / RMF ได้นิ ประหยัดภาษีด้วย หรือ เจอช่วงตลาดไม่ดี เป้าหมายนี้ยังมีเวลา ช่วงนี้ตลาดลงมาแย่มากแล้ว ถ้าพื้นฐานยังเยี่ยม กองเราเลือกยังดี เดี๋ยวมันก็มีโอกาสกลับมา

 

 

3.ลดปัญหาเรื่องเงิน

 

การเอาสิ่งที่อยากได้อยากทำมาเขียนเป้าหมายและทำแผน คุณจะเห็นภาพตัวเองล่วงหน้าแบบไม่เข้าข้างตัวเองได้เลย ว่าถ้าซื้อของชิ้นนี้ จ่ายได้(จริงๆ) ไหม เสี่ยงเงินไม่พอใช้หรือเปล่า หรือถ้าต้องซื้อจริงๆ คุณจะทำยังไงต่อดี ต้องหารายได้เพิ่มไหม ต้องเลือกทำเป้าหมายไหนก่อน



ซึ่งจากที่ผมเล่ามา มันก็นำมาสู่คำตอบว่า ถ้าคุณมีทุกอย่างแล้ว ไม่มีแพลนต้องใช้เงิน ไม่มีของที่อยากได้ การกำหนดเป้าหมายการเงินคงไม่จำเป็น 

 

แต่ถ้ายังมีสิ่งของที่อยากซื้อ มีคนต้องดูแล ทั้งคนข้างหลัง รวมถึงตัวเอง เนี่ย ผมว่าการที่คุณมีเป้าหมายการใช้เงินน่าจะยังจำเป็น

 

แล้วเป้าหมายการเงินของคุณละหน้าตาเป็นยังไง… 

 

📌แจกฟรี! ไฟล์คำนวณเป้าหมายการเงิน เพียงแอดไลน์ @lumpsumofficial หรือ  https://page.line.me/lumpsumofficial แล้วพิมพ์คำว่า เป้าหมายการเงิน2024

 

#วางแผนการเงิน#รายได้#ออมเงิน#เก็บเงิน#การเงิน#เป้าหมายการเงิน#Lumpsum#ที่ปรึกษาทางการเงิน

 

บทความแนะนำล่าสุด


บทความอื่นๆที่น่าสนใจ