ไม่มีรายการ

ทคนิคสำหรับคนอยากโปะหนี้บ้านให้หมดไว ควรเลือกรีไฟแนนซ์บ้านแบบไหนดี?

เทคนิคสำหรับคนอยากโปะหนี้บ้านให้หมดไว ควรเลือกรีไฟแนนซ์บ้านแบบไหนดี?

13 มิถุนายน 2568


สำหรับคนผ่อนบ้านอย่างเราๆ รู้กันดีว่าจะซื้อบ้านกันที ถ้าผ่อนต้องเสียดอกเบี้ยพอๆกับราคาบ้านเลยทีเดียว ซึ่งที่เป็นแบบนั้น เพราะวงเงินกู้ที่สูง ระยะเวลาผ่อนที่นาน และอัตราดอกเบี้ยที่ได้จากธนาคาร แต่มันก็เลี่ยงไม่ได้ เพราะสำหรับหลายคนจะให้มานั่งเก็บเงินสดซื้อก็คงไม่ไหว

แต่ก็ยังพอมีทางออกอยู่ ที่จะช่วยให้เราสามารถประหยัดดอกเบี้ยก้อนใหญ่นี้ได้ ซึ่งบอกเลยว่าสามารถประหยัดได้เป็นล้านๆ

 

นั่นก็คือ

การรีไฟแนนซ์บ้าน และ การโปะค่างวดเพิ่มเข้าไป ซึ่งทั้ง 2 วิธีนี้จะเป็นตัวช่วยให้คุณสามารถประหยัดดอกเบี้ยบ้านได้ แต่น่าจะดีกว่า ถ้าเราทำทั้ง 2 วิธีนี้ไปพร้อมๆกัน

 

วันนี้เราเลยอยากเอาเทคนิคการเลือกดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน

ที่จะทำให้ทั้งการผ่อนบ้าน การโปะค่างวดเพิ่ม เข้าเงินต้นเยอะที่สุด เพื่อให้เงินแต่บาทที่จ่ายเข้าไปคุ้มค่ามากที่สุด

ㅤㅤㅤ

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ดอกเบี้ยบ้าน คิดยังไง

ดอกเบี้ยบ้านเป็นดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก(Effective Rate)ㅤ

ตัวอย่างเช่น

ยอดกู้บ้านอยู่ที่ 3,000,000 บาท

ดอกเบี้ย 4%

ระยะเวลาผ่อน 30ปี

ㅤㅤ

เดือนที่ 1

ค่างวดจะอยู่ที่ประมาณ 14,300 บาท

แยกออกเป็น จ่ายเงินต้น 4,400 บาท และจ่ายดอกเบี้ย 9,900 บาท

ㅤㅤ

เดือนที่ 2

ดอกเบี้ยจะคำนวณจากยอดกู้คงเหลือ ก็คือ 3,000,000 - 4,400 บาท

จะเห็นว่า ทุกเดือนเงินต้นจะลดลง ทำให้ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนก็ลดลงไปด้วย

ㅤㅤ

นั่นหมายความว่า ตัวแปรสำคัญของดอกเบี้ยบ้าน ก็คือ อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารให้

ถ้าเงินต้นเยอะดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็จะเยอะไปด้วย

ㅤㅤ

ซึ่งการรีไฟแนนซ์บ้าน และ การโปะค่างวดเพิ่มเข้าไป ก็จะเข้ามาช่วยให้เราประหยัดดอกเบี้ยได้มากขึ้นนั่นเอง

ㅤㅤㅤ

 

การรีไฟแนนซ์บ้านช่วยให้ประหยัดได้ยังไง

ปกติแล้วเวลาที่ขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้าน เรามักจะได้อัตราดอกเบี้ยที่ถูก อยู่ช่วง 3 ปีแรกของการผ่อน พอครบกำหนด อัตราดอกเบี้ยจะขยับขึ้นเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว (Floating Rate) ซึ่งก็จะทำให้ดอกเบี้ยแพงขึ้น เท่ากับว่า เงินที่จ่ายเข้าไป ก็จะยิ่งเข้าเงินต้นน้อย การรีไฟแนนซ์บ้าน จะช่วยให้ดอกเบี้ยบ้านต่ำอยู่เสมอ

ㅤㅤ

 

การโปะเงินเพิ่มเข้าไปช่วยให้ประหยัดได้ยังไง

จากตัวอย่างข้างบน

ค่างวดจะอยู่ที่ประมาณ 14,300 บาท

แยกออกเป็น จ่ายเงินต้น 4,400 บาท และจ่ายดอกเบี้ย 9,900 บาท

ㅤㅤ

ซึ่งในตัวอย่าง เงินที่จ่ายเข้าไป ถูกหักดอกเบี้ยเยอะกว่า เพราะธนาคารจะหักดอกเบี้ยออกจากค่างวดก่อนเลย ส่วนเงินที่เหลือถึงจะไปเข้าเงินต้น

ดังนั้น ถ้าเรามีโปะเงินเพิ่มเข้าไป เงินส่วนนี้ก็จะไปตัดเงินต้นทั้งหมด

เช่น โปะเงินเพิ่ม 3,000 บาท ในเดือนนี้เท่ากับเราจะจ่ายเงินต้นเป็น 4,400 + 3,000 = 7,400 บาท

เมื่อเงินต้นลดเยอะขึ้น ก็จะทำให้งวดต่อไปเราเสียดอกเบี้ยลดลงนั่นเอง

ㅤㅤ

เทคนิคการเลือกดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน ที่จะทำให้เงินแต่บาทที่จ่ายเข้าไปคุ้มค่ามากที่สุด

คือ การเลือกดอกเบี้ยแบบขั้นบันได หรือดอกเบี้ยต่ำในช่วงปีแรก

ㅤㅤ

อย่างธนาคารกรุงศรี ก็มีโปรโมชันดอกเบี้ยพิเศษ แบบขั้นบันได ซึ่งดอกเบี้ยปีแรกต่ำสุดเพียง 1.80% เท่านั้น

โดยจุดเด่นสำคัญของการคิดดอกเบี้ยแบบขั้นบันได คือ จะช่วยให้ในปีแรกเงินที่จ่ายเข้าต้นได้เยอะขึ้น

ㅤㅤ

เพราะอย่าลืมนะครับว่า ดอกเบี้ยบ้านเป็นดอกเบี้ยลดต้นลดดอก คำนวณจากเงินต้นคงเหลือ ในช่วงปีแรกๆที่เราเพิ่งกู้ซื้อบ้าน ยอดเงินต้นยังสูงอยู่ ทำให้เราก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยเยอะตามไปด้วย

ดังนั้น ถ้าปีแรกของการผ่อนและโปะเงินเพิ่ม ยิ่งได้ดอกเบี้ยต่ำ เงินที่จ่ายเข้าไปก็ยิ่งเข้าเงินต้น

ㅤㅤ

ถ้าลองคำนวณตามตัวอย่างก่อนหน้านี้

ค่างวดที่จ่ายเข้าไป 14,300 บาท

จะจ่ายดอกเบี้ยแค่ 4,400 บาท และไปจ่ายเงินต้นได้ถึง 9,900 บาท

นี่ขนาดดอกเบี้ยต่ำอย่างเดียวและแน่นอนว่า ยิ่งมีแผนโปะเงินเพิ่มเข้าไป เงินต้นก็จะยิ่งลด ดอกเบี้ยก็ลดลงตามไปด้วย ก็จะทำให้เราประหยัด คุ้มค่ามากขึ้น

ㅤㅤ

สรุป

1. ดอกเบี้ยบ้านเป็นดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก(Effective Rate) ถ้าเงินต้นเยอะ ดอกเบี้ยที่มาเรียกเก็บเราก็จะเยอะตามไปด้วย

ㅤㅤ

2. ดอกเบี้ยบ้านที่ต้องจ่าย จะน้อยจะมาก ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารให้

ถ้าอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารให้ยิ่งต่ำเท่าไร ยิ่งจ่ายดอกเบี้ยต่อเดือนน้อย ซึ่งถ้าต้องการให้ดอกเบี้ยต่ำเสมอ อย่าลืมรีไฟแนนซ์บ้าน

ㅤㅤ

3. การโปะเงินเพิ่มเข้าไปช่วยให้ประหยัดได้มากขึ้น เพราะ ค่างวดที่จ่ายเข้าไปในแต่ละเดือนจะถูกหักดอกเบี้ยก่อน ส่วนที่เหลือถึงจะไปเข้าเงินต้น

ถ้าเราโปะเงินเพิ่มเข้าไป เท่ากับว่าเงินที่โปะเพิ่มจะเข้าเงินต้นทั้งหมด และเมื่อเรายิ่งจ่ายเงินต้นได้เยอะ เดือนต่อไปดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็จะยิ่งลดลง

ㅤㅤ

4. ช่วงปีแรกๆ เงินต้นเยอะ จะต้องจ่ายดอกเบี้ยเยอะ การเลือกดอกเบี้ยแบบขั้นบันได อย่างธนาคารกรุงศรีที่ปีแรกให้อัตราดอกเบี้ยเพียง 1.80% ก็จะยิ่งช่วยให้ทั้งค่างวดที่ต้องจ่ายและเงินที่ต้องการโปะเพิ่ม เข้าเงินต้นเพิ่มขึ้น และแน่นอนจะทำให้เงินที่จ่ายในการผ่อนบ้าน ประหยัด และคุ้มค่ามากขึ้น

⠀⠀⠀

📌 เช็กดอกเบี้ยบ้านของคุณวันนี้ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย คลิกที่นี่เลย

บทความแนะนำล่าสุด


บทความอื่นๆที่น่าสนใจ