ไม่มีรายการ

หนี้บัตรเครดิต จ่ายขั้นต่ำวนไป..ยังไงก็ใช้หนี้ไม่หมด
26 สิงหาคม 2563
หลายคนอาจจะมองว่าการจ่ายขั้นต่ำนั้นช่วยเราได้เยอะเลย ทั้งที่ไม่ต้องเจียดเงินในแต่ละเดือนเยอะ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้เราได้อีก มันก็ดูเหมาะมากๆสำหรับคนที่สภาพคล่องไม่ดี หรือคนที่ไม่มีเงินก้อนในมือเพียงพอที่จะทำการจ่ายซื้อสินค้าได้เต็มจำนวน และมองหาบริการผ่อนชำระสินค้าที่ประหยัดและต้องจ่ายคืนให้กับผู้ให้บริการบัตรเครดิตให้น้อยที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดภาระในการใช้จ่ายต่อเดือนแต่หารู้ไม่ว่าการที่เราจ่ายขั้นต่ำนั้นมีการคิดดอกเบี้ยทุกวันจนกว่าเราจะจ่ายครบ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
• บัตรเครดิตวงเงิน 30,000 บาท
• รูดบัตรซื้อมือถือ 25,000 บาท (5/8/63)
• วันสรุปยอดการใช้วงเงินทุกวันที่ 25 ของเดือน (เงื่อนไขขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการบัตรเครดิตนั้นๆ)
• และมีกำหนดชำระวันที่ 9 ของทุกเดือน
เมื่อถึงวันครบกำหนดแล้วหากเราไม่ชำระเต็มจำนวนและเลือกจ่ายขั้นต่ำ จะถูกคิดดอกเบี้ยสูงสุดที่ 20% ทันทีที่ใช้ตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2563 วันที่รูดซื้อมือถือ (เงื่อนไขขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการบัตรเครดิตนั้นๆ) โดยดอกเบี้ยจะคิดเป็นรายวัน จนกว่าจะจ่ายหนี้หมด โดยมีสูตรการคำนวณดอกเบี้ย คือ
สูตรการคำนวณดอกเบี้ย = จำนวนเงินค่าสินค้า x %ดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวัน / 365
เมื่อถึงวันที่กำหนดชำระ วันที่ 9 เดือนกันยายน แล้วเราไม่จ่ายเต็มจำนวน โดยเลือกจ่ายขั้นต่ำ 10% จากยอดซื้อโทรศัพท์ 25,000 บาท นั่นก็คือจำนวนเงิน 2,500 บาท ทำให้เงินต้นคงเหลือ เท่ากับ 22,500 บาท ดังภาพ
จากที่ดูตามภาพก็ดูเหมือนว่าก็ไม่ได้คิดอะไรยากและยอดก็ธรรมดาทั่วไป แต่รู้ไหมคะว่า...การคิดคำนวณดอกเบี้ยในการจ่ายขั้นต่ำแบบมหาโหด ได้เริ่มขึ้นแล้ว เมื่อทำการชำระเงินขั้นต่ำ เงินต้นจะถูกทำการหักออกไป และทำการคิดดอกเบี้ย 20%
จากวันที่ถูกเรียกเก็บชำระย้อนหลังจนถึงวันที่ชำระเงินจริง แต่ดอกเบี้ยบัตรเครดิตจะไม่ลดลงตามเงินต้น เพียงแค่คูณวันเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาที่ต้องชำระเท่านั้น ตั้งแต่วันที่เราเลือกที่จะจ่ายขั้นต่ำไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม
จากนี้การคิดดอกเบี้ยจะคิดเป็นแบบรายวัน และเมื่อถึงวันสรุปยอด (วันเช็ครายการยอดหนี้) 25 กันยายน 2563
โดยกำหนดตัวอย่างตั้งแต่วันที่ 9-25 กันยายน ไม่มีรายการใช้จ่ายใหม่เกิดขึ้น โดยการคิดคำนวณดอกเบี้ยแบ่งเป็น 2 ส่วน จากยอดใช้จ่าย และยอดคงค้าง ดังภาพต่อไปนี้
การคิดดอกเบี้ย 20% จากวันที่ถูกเรียกเก็บชำระย้อนหลังจนถึงวันที่ชำระเงินจริง
เมื่อนำดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในจาก 2 ยอดคือ
1. ดอกเบี้ยยอดใช้จ่าย
2. ดอกเบี้ยยอดคงค้าง
มารวมกัน ก็จะกลายมาเป็นจำนวนดอกเบี้ยที่ต้องเพิ่มเติมให้กับผู้ให้บริการบัตรเครดิต และถ้ายิ่งจ่ายขั้นต่ำไปเรื่อยๆ ดอกเบี้ยก็จะยิ่งเพิ่มพูนไปอีกในลักษณะแบบเดียวกันกับตัวอย่างข้างบน กว่าจะจ่ายเงินต้นหมดดอกเบี้ยก็บานเป็นหนี้ก้อนใหญ่
เพราะฉะนั้น เราควรรู้จักการใช้บัตรเครดิตให้เป็น หากเรายังมียอดค้างชำระ ยอดใช้จ่ายใหม่ก็จะถูกคิดดอกเบี้ยไปด้วย
หากว่าเรายังมียอดค้างชำระในบัตรเครดิตอยู่ แล้วยังนำบัตรเครดิตใบที่มียอดค้างชำระนั้นไปใช้จ่าย หรือไปรูดจนเกิดยอดการใช้จ่ายใหม่ ก็จะถูกคิดดอกเบี้ยไปด้วย เพราะว่าเราได้ถูกยกเลิกระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยในรอบบัญชีถัดไปแล้ว
การจ่ายขั้นต่ำนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเงินก้อนในมือพอที่จะจ่ายเต็มได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือเรารู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่มีเงินก้อนในมือเราควรจะวางแผนชำระหนี้บัตรเครดิตให้ดี อย่ารูดบัตรจนเพลินมือเกินไป และหากจ่ายขั้นต่ำอยู่แสดงว่าความสามารถในการชำระหนี้เราลดลง ก็ไม่ควรที่จะสร้างหนี้เพิ่มค่ะ
ดังนั้น จึงแนะนำหลีกเลี่ยงบัตรเครดิตด้วยการจ่ายเต็มจำนวนเมื่อครบกำหนดชำระ หรือ จ่ายให้เร็วขึ้นไม่ต้องรอวันครบกำหนด เพื่อลดดอกเบี้ย เพราะอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตคิดแบบ ลดต้นลดดอก หรือให้หยุดใช้จ่ายบัตรเครดิตที่มียอดค้างชำระอยู่ไปก่อน แล้วรีบหาเงินมาจัดการปิดยอดที่ค้างชำระอยู่ให้หมด แล้วจากนั้นจึงค่อยเริ่มใช้บัตรเครดิตอีกครั้งน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี เพื่อให้เราไม่ถูกคิดดอกเบี้ยหลายชั้นนั่นเองค่ะ
.............................