มาตรการออกมาเยอะแยะ แต่อ่านแล้วยัง "งง" ตกลงเราในฐานะมนุษย์เงินเดือนจะได้อะไรบ้างเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาประชาชนเรื่องไวรัสโควิด-19
อ่านข่าวจบ...แล้วไงต่ออ่ะ? มันก็มีคำถาม เหมือนที่หลายๆ คนไปคอมเมนต์ใต้ข่าวตามเฟซบุ๊ก ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะมาตรการออกมาแบบเร่งด่วน แล้วรัฐบาลก็ให้แต่ละหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไปออกรายละเอียดเกณฑ์ และเงื่อนไขตามหลังอีกที
ดังนั้น ที่จะได้อ่านจากนี้จึงอยากจะ "สรุป" ออกมาให้ตัวเองและเพื่อนๆ ได้เข้าใจง่ายๆ โดยจะโฟกัสเฉพาะสิ่งที่ “มนุษย์เงินเดือน” อย่างเราจะได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม มีอะไรบ้าง เพราะนโยบายที่ออกมาส่งตรงถึงทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
#1. คืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า"
วุ่นวายตั้งแต่ยังไม่เริ่มคืนเงิน เห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องนี้ละค่ะ "การคืนเงินค่าประกันการใช้ไฟฟ้า" เท่าที่ประมวลข้อมูลรัฐบาลเคาะแผนคืนเงินค่าประกันให้เราจริง แต่ว่าคืนให้ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับขนาดมิเตอร์ไฟ เริ่มตั้งแต่ 300 บาท 2,000 บาท 4,000 บาท ไปจนถึง 6,000 บาท
ทำยังไงจะได้เงินคืน และจะเริ่มเมื่อไหร่?
-
ข้อมูลที่ต้องใช้สำหรับลงทะเบียน
1. ชื่อ-นามสกุล เจ้าของหลักประกันการใช้ไฟฟ้า
2. หมายเลขบัตรประชาชน เจ้าของหลักประกันการใช้ไฟฟ้า
3. รหัสบัญชี แสดงในสัญญา (หมายเลข CA)ซึ่งระบุในใบแจ้งค่าไฟฟ้าหรือใบเสร็จรับเงิน หรือ แอปพลิเคชัน MEA Smart life ในฟังก์ชันชำระค่าไฟฟ้า
1. ลงทะเบียนออนไลน์ เริ่มตั้งแต่ 25 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป ที่ www.mea.or.th ตลอด 24 ชั่วโมง
2. ลงทะเบียนทางโทรศัพท์ ที่หมายเลข 02 256 3333 จำนวน 50 คู่สาย ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563-29 พฤษภาคม 2563 เวลา 08.00-15.30 น.ในวันทำการ
3. ลงทะเบียน ณ ที่ทำการของการไฟฟ้านครหลวง 18 เขต ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป เวลา 07.30-15.30 น. ในวันทำการ
* ปล.กรณีผู้ที่ชื่อเจ้าของมิเตอร์ ไม่ตรงกับชื่อผู้ครอบครองมิเตอร์ เช่น ผู้ซื้อบ้าน คอนโดมิเนียมมือ 2, ผู้รับมรดกจากผู้เสียชีวิต ที่ยังไม่โอน หรือไม่เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนชื่อเป็นเจ้าของใหม่ ในส่วนนี้ต้องดำเนินการเปลี่ยนแปลงรายชื่อก่อน เพื่อป้องกันการฟ้องร้องที่จะตามมา ให้ติดต่อ ณ ที่ทำการ การไฟฟ้านครหลวงทั้ง 18 เขต (ตามข้อ 3)
บัญชีพร้อมเพย์ ธนาคาร และที่เซเว่นอีเลฟเว่น รับเงินคืนตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป
#2. ลดอัตราเงินสมทบประกันสังคมเหลืออัตรา 1% นาน 3 เดือน
รัฐบาลอนุมัติแล้วเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563 ให้ลดอัตราเงินสมทบประกันสังคมเหลืออัตรา 1% เป็นเวลา 3เดือน (มีนาคม-พฤษภาคม 2563)
แล้วดีกับเราอย่างไร? การหักเงินลดลงจาก 5% เหลือ 1% นั่นหมายความว่า เดิมทีเปิดสลิปเงินเดือนออกมาเงินเดือนเราจะถูกหักไป 750 บาท (5% จากฐานค่าจ้างคิดสูงสุดที่ 15,000 บาท) แต่จากนี้ไปจะถูกหักแค่ 150 บาท (1% จากฐานสูงสุด 15,000 บาท)
เท่ากับเราเหลือเงินเดือนใช้เพิ่มขึ้น 600 บาทนั่นเอง!!
ไม่ต้องกังวลว่าลดเงินนำส่งแล้ว สิทธิประโยชน์เราจะลดลงด้วยหรือไม่ คำตอบคือ ไม่ค่ะ ทุกอย่างจะยังคงเดิม เช่น หาหมอฟันไม่เกิน 900 บาทต่อปี ค่าคลอดบุตรเหมาจ่าย 13,000 บาท เป็นต้น
*ปล.สำหรับเดือนมีนาคม 2563 เราแกะสลิปเงินเดือนออกมา อาจจะพบว่ายังถูกหัก 750 บาทไปเหมือนเดิม ก็ไม่ต้องตกใจไปนะคะ เข้าใจว่า ทางฝ่ายบุคคลจะยังหักนำส่งตามปกติก่อน จนกว่าจะมีประกาศจากกระทรวงแรงงาน ซึ่งทาง ครม.เพิ่งอนุมัติไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม มันใกล้ช่วงทำเงินเดือนพอดี
ดังนั้น ใจเย็นๆ นะคะ เดี๋ยวทางบริษัทของท่านก็น่าจะมีวิธีคืนเงินเราในภายหลัง สำหรับงวดเดือนมีนาคมค่ะ
#3. ลูกหนี้ทุกประเภท เจรจาปรับเงื่อนไขกับแบงก์ได้
แบงก์ชาติร่วมมือกับสถาบันการเงินในการความช่วยเหลือกับลูกหนี้ ใครมีหนี้บ้าน หนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล ฯลฯ แนะนำให้ติดต่อไปที่สถาบันการเงินที่เราเป็นลูกหนี้ เพื่อสอบถามแนวทางผ่อนปรน เช่น ขอยืดเวลาผ่อนชำระหนี้ พักชำระเงินต้น ลดดอกเบี้ย
ข้อนี้ดิฉันคงไม่ลงรายละเอียดปลีกย่อยของแต่ละแบงก์ เพราะเยอะมากค่ะ แต่ละที่ก็จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ซึ่งทางแบงก์ชาติได้รวมของแต่ละสถาบันการเงินไว้ ให้เราเข้าไปอัปเดตกันได้ ใครเป็นลูกหนี้แบงก์ไหนก็ลองติดต่อสอบถามจากทางธนาคาร
*ตรวจสอบมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ที่อัปเดตล่าสุดได้ที่นี่ค่ะ
#4. หักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุน SSF ได้อีกไม่เกิน 200,000 บาท
เดิมทีหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ที่รัฐบาลเพิ่งอนุมัติตอนปลายปี 62 (มาแทน LTF) ลดหย่อนภาษีได้ 30% ของรายได้ แต่รวมแล้วไม่เกิน 200,000 บาท ลงทุนสินทรัพย์ได้ทุกประเภท ระยะเวลาลงทุน 10 ปี นับจากวันที่ซื้อ โดยเงินที่ซื้อ SSF เมื่อรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท
ปัจจุบันมีให้ซื้อได้ 17 กองทุน (ก.ล.ต.เพิ่งอนุมัติ SSF ไป 17 กองทุน ณ วันที่ 4 มี.ค.63)
แต่มาตรการช่วงโควิด-19 บอกว่า กองทุน SSF ที่มีนโยบายลงทุนในตลาดหุ้นไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ผู้ซื้อสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้เพิ่มอีกไม่เกิน 200,000 บาท โดยแยกจากวงเงินหักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนใน SSF กรณีปกติ (ที่เล่าไปข้างต้น) และไม่นับรวมอยู่ในวงของกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ โดยต้องซื้อระหว่างวันที่ 1 เม.ย. - 30 มิ.ย. 63
ถามว่ามี SSF กองไหนบ้างที่เข้าเงื่อนไขนี้ ฉันจะซื้อได้ที่ บลจ.ไหน? ขณะนี้แต่ละบลจ.กำลังทยอยส่งร่างเอกสารจัดตั้งกองทุน SSF ที่ลงทุนในตลาดหุ้นไม่น้อยกว่า 65% ให้ ก.ล.ต.พิจารณา อีกไม่นานคงมีคลอดออกมาให้ได้ซื้อลงทุนกันแน่นอนค่ะ สามารถติดตามข่าวสารได้จาก สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย ด้วยคำค้นหา “SSF”
#5.เลื่อนชำระภาษีและยื่นแบบบุคคลธรรมดา (ยื่น ภ.ง.ด.90/91) เป็นไม่เกินเดือน สิงหาคม
ปกติมนุษย์เงินเดือน จะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีประจำปี เริ่มเดือนมกราคม-สิ้นเดือนมีนาคม แต่รัฐบาลโดย กรมสรรพากร ขยายเวลาออกไปอีก 5เดือน จากเดิมสิ้นสุดมีนาคม เป็นสิ้นสุดเดือนสิงหาคมเป็นการชั่วคราว เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระการเสีย ให้บุคคลธรรมดาอย่างเราๆ ท่านๆ มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นในสถานการณ์ COVID-19
* มาตรการนี้ ก็จะดีสำหรับคนที่จะต้องชำระภาษีเพิ่ม อย่างน้อยก็เหมือนชะลอไว้ก่อนสัก 5 เดือน ที่จะยังมีเงินสดหมุนเวียนในมือไปก่อน แทนที่จะต้องรีบเอาเงินสั่นนั้นมาจ่ายภาษีเงินได้ประจำปี ส่วนใครที่ขอคืนภาษีหรือชอบหลงลืมไม่ขอคืนภาษี ก็ถือซะว่ามีเวลาเพิ่มอีก อย่าลืมไปขอคืนภาษีกันนะคะ จะได้ตังค์มาใช้ไวไวค่ะ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง : สอนวิธียื่นภาษีออนไลน์ ง่ายๆ Step-by-Step
#6. ลดค่าไฟฟ้าร้อยละ 3
ลดค่าไฟฟ้า 3% สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภท เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เมษายน-มิถุนายนนี้ คาดว่าจะใช้งบประมาณรวม 5,160 ล้านบาท แบ่งเป็นการไฟฟ้านครหลวง คาดใช้งบ 1,600 ล้านบาท และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคคาดใช้งบประมาณ 3,560 ล้านบาท
#7. ลดค่าน้ำร้อยละ 3
ลดค่าน้ำประปาในอัตรา 3% ให้กับผู้ใช้น้ำทุกประเภท เป็นระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่รอบการใช้น้ำเดือนเมษายน-มิถุนายนนี้ คาดว่าจะใช้งบประมาณรวม 330 ล้านบาท แบ่งเป็นการประปานครหลวง 130 ล้านบาท การประปาส่วนภูมิภาค 200 ล้านบาท
#8. คืนเงินประกันการใช้น้ำ ให้บ้านที่อยู่อาศัย
คืนเงินประกันการใช้น้ำให้กับผู้ใช้น้ำประเภทที่ 1 ที่พักอาศัยรวม 5.7 ล้านราย วงเงิน 2,834 ล้านบาท แบ่งเป็นการประปานครหลวง 2 ล้านราย วงเงิน 1,034 ล้านบาท และการประปาส่วนภูมิภาค 3.7 ล้านราย วงเงิน 1,800 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้วางเงินประกันการใช้น้ำ สามารถตรวจสอบสิทธิและแจ้งความประสงค์เพื่อขอคืนเงินประกันผ่านช่องทางต่างๆ
#9. หักลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพเพิ่มขึ้นเป็น 25,000 บาท
เพิ่มวงเงินลดหย่อนค่าเบี้ยประกันสุขภาพจาก 15,000 บาท เป็น 25,000 บาท เริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป
*เมื่อรวมกับการหัดลดหย่อนค่าเบี้ยประกันชีวิตและเงินฝากประเภทสงเคราะห์ชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท ตั้งแต่ปีภาษี 2563 เป็นต้นไป
#10. ว่างงานเพราะโควิด-19 รับเงินจาก สปส.ไม่เกิน 50%
นายจ้างไม่ให้ทำงาน กักตัว 14 วัน เนื่องจากสัมผัสหรือใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19
หน่วยงานภาครัฐ สั่งให้หยุดกิจการชั่วคราว
เรื่องที่เกี่ยวข้อง : ว่างงานลงทะเบียนด่วน! รับเงินชดเชยจาก สปส.
#11. เลื่อนชำระ-ลดดอกเบี้ยแบบแบบจัดหนักใน "โครงการคลินิกแก้หนี้" เริ่ม เม.ย.นี้
มนุษย์เงินเดือนหลายคนอาจยังไม่รู้จัก "โครงการคลินิกแก้หนี้" โครงการการนี้ คือ หน่วยงานกลางของรัฐที่ดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้ โดยจะช่วยเหลือคนที่ไม่ไหวแล้วจริงๆ คือพวกที่เป็นหนี้เน่าบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคล
สมาชิก :
-เลื่อนงวดชำระ (ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย) ออกไปเป็นระยะเวลาสูงสุด 6 เดือน (เม.ย. - ก.ย. 2563)
-ปรับลดดอกเบี้ยของโครงการลง 2% เป็นระยะเวลา 6 เดือน (เม.ย. - ก.ย. 2563) เพื่อลดภาระดอกเบี้ย
จ่าย สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการที่ยังจ่ายชำระหนี้อย่างต่อเนื่อง
สมาชิกของโครงการส่วนใหญ่ ปัจจุบันจ่ายดอกเบี้ยที่ 4-5% แต่ตามมาตรการในครั้งนี้จะช่วยให้จ่ายดอกเบี้ยลดลง 2% คือเหลือเพียง 2-3%
ไม่เป็นสมาชิก : สมัครเข้ามาที่คลินิกแก้หนี้
ในช่วงนี้ยังมีสิทธิได้รับข้อเสนอลดดอกเบี้ย 2% จากโครงการเช่นเดียวกัน
ที่สรุปมานี้ เป็นมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโคโรนา ที่น่าจะใกล้ตัวมนุษย์เงินเดือน 8 ชม./วัน อย่างเราๆ หน่อย ช่วงนี้ก็อย่าลืมเกาะติดข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพราะหากเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น รัฐบาลอาจจะต้องออกมาตรการที่เหมาะสมมาช่วยเหลือประชาชนอีก..อย่างน้อยเราจะได้ไม่พลาด หรือเสียสิทธิ์ที่ควรจะได้ค่ะ
<อัปเดต ณ 26 มี.ค. 2563 / เวลา 13.55 น.>